แผนการจัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดลำปาง

วันที่ 2 เมษายน 2564 นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง และนายแพทย์พงษ์ศักดิ์ โสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปาง ได้เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดลำปาง ซึ่งได้รับวัคซีนโควิด-19 ในวันนี้ จำนวน 1,800 โด๊ส วัคซีนที่ได้รับในวันนี้ เป็นวัคซีนของ Sinovac มีการขึ้นทะเบียนรับรองให้ใช้โดยคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และตรวจสอบออก lot release โดยสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งทำให้มั่นใจว่าวัคซีนที่จะนำมาใช้ทุกตัวใน ประเทศไทยจะต้องมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและความปลอดภัยต่อผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน

วัคซีนของ Sinovac เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อแขนส่วนบน ครั้งละ 0.5 มิลลิลิตร ตารางการฉีด วัคซีนของประเทศไทยกำหนดโดยคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ให้ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ห่างกัน 2- 4 สัปดาห์ โดยใน
พื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงแนะนำให้ฉีดห่างกัน 2 สัปดาห์ วัคซีนมีประสิทธิภาพโดยรวมในการป้องกันโรค แบบมีอาการตั้งแต่ น้อยมาก 50.4 % ป้องกันโรคแบบมีอาการ 65.3%-91.2 % ป้องกันโรครุนแรงเสียชีวิต 100%
สำหรับข้อห้ามใช้ของวัคซีน มีข้อห้ามใช้ในบุคคลผู้มีประวัติแพ้ ส่วนประกอบใดๆของวัคซีนนี้ อายุต่ำกว่า 18 ปี , หญิงตั้งครรภ์ , หญิงให้นมบุตร , อายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป ข้อควรระวังที่ควรเลื่อนการฉีดไปก่อน คือผู้ที่เจ็บป่วยเฉียบพลัน แต่หากเป็นหวัดเล็กน้อยสามารถฉีดได้

 

จังหวัดลำปางของเราได้รับการสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 จำนวน 1,800 โดส (900 คน ๆ ละ 2 เข็ม) โดยกลุ่มเป้าหมายในการฉีดวัคซีนสำหรับล็อตแรกนี้ ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 400 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวน 500 คน ซึ่งจะเริ่มฉีดวัคซีนในวันพรุ่งนี้จนถึงวันจันทร์จึงจะแล้วเสร็จ หากได้รับการสนับสนุนล็อตต่อไป

จังหวัดลำปางมีแผนในการจัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมายใน 4 กลุ่มดังนี้ก่อน
1) บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน
2) ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค อายุตั้งแต่ 18 ปี ถึงอายุ 60 ปี
3) ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
4) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด-19
สำหรับในระยะสอง (เมื่อมีวัคซีนมากขึ้นและเพียงพอ) กลุ่มเป้าหมายลำดับต่อไป ได้แก่
1) กลุ่มเป้าหมายในระยะที่ 1 ที่ยังไม่ได้รับ
2) บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นๆ ที่นอกเหนือจากด่านหน้า
3) ผู้ประกอบอาชีพภาคการท่องเที่ยว เช่น พนักงานโรงแรม สถานบันเทิง มัคคุเทศก์ นักกีฬา
4) ผู้เดินทางระหว่างประเทศ เช่น นักบิน/ลูกเรือ นักธุรกิจระหว่างประเทศ
5) ประชาชนทั่วไป
จำนวนกลุ่มเป้าหมายการรับวัคซีนจังหวัดลำปางในระยะแรก มีจำนวนประมาณ 300,000 คน ซึ่งจะดำเนินการฉีดในโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งในจังหวัดลำปาง รวม 15 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ประจำอยู่ใน

แต่ละอำเภอ โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี และโรงพยาบาลมะเร็ง โดยมีเป้าหมายการฉีดต่อวันประมาณ 5,000 คน ซึ่งจะใช้เวลาการฉีดทั้งหมดประมาณ 4-5 เดือน ในการที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม ในทุกกลุ่มเป้าหมาย และผู้ที่ได้รับวัคซีนจะต้องเฝ้าระวังอาการภายหลังฉีดวัคซีน ณ จุดที่ให้บริการเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที จึงจะสามารถเดินทางกลับบ้านได้ และเพิ่มเพื่อน Line หมอพร้อมเพื่อบันทึกอาการภายหลังฉีดวัคซีน ในวันที่ 1, 7, 30 ในกรณีที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือไม่ประสงค์จะบันทึกใน Line หมอพร้อม จะต้องจดบันทึกอาการที่พบและวันที่พบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ หรือ อสม.ที่ดูแล หากระหว่างการเฝ้าระวังพบมีอาการผิดปกติรุนแรง ให้ไปพบเจ้าหน้าที่/แพทย์ ณ สถานบริการใกล้บ้านอาการข้างเคียงของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่อาจพบได้ เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รู้สึกหนาว เป็นไข้ เกิดอาการบวม ปวดบริเวณข้อต่อ และคลื่นไส้ เป็นต้น ในช่วงแรกจึงควรฉีดวัคซีนในสถานพยาบาล ผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังการฉีด คือ อาการปวด บวมบริเวณที่ฉีดพบประมาณร้อยละ 20 ซึ่งสามารถหายได้เอง

อย่างไรก็ตามหากมีอาการดังต่อไปนี้ หลังได้รับวัคซีน ให้รีบไปพบแพทย์ ณ สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทร 1669 ไข้สูง หนาวสั่น ปวดศรีษะรุนแรง เหนื่อยแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก หรือหายใจไม่ออก อาเจียน มากกว่า 5 ครั้ง ผื่นขึ้นทั้งตัว ผิวหนังลอก มีจุด (จ้ำ) เลือดออกจำนวนมาก ใบหน้าเบี้ยว หรือ ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถทรงตัวได้ ต่อมน้ำเหลืองโต ชัก หรือหมดสติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น