หนุ่มเชียงรายเครียด รพ.เอกชนแจ้งผลตรวจโควิดผิดพลาด ต้องไปอยู่ร่วมกับผู้ป่วยถึง 2 คืน

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดเชียงรายพบผู้ได้รับผลกระทบจากการแจ้งผลตรวจผิดพลาด จึงนำเรื่องราวที่พบเจอไประบายบนเฟสบุ๊กส่วนตัว ใจความว่า “ผมขอชี้แจงรายละเอียดผลการตรวจโควิด-19 ของผมนะครับ ตามที่ได้มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผมไปก่อนหน้านี้

เนื่องจาก วันที่ 8 เมษายน 2564 ผมได้เดินทางไปตรวจโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเอกชน ในจังหวัดเชียงราย เมื่อตรวจเสร็จผมก็กลับบ้าน เวลาประมาณ 23.29 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ของ รพ.ติดต่อมาแจ้งผลการตรวจของผมว่าผลตรวจเป็นบวก (ติดเชื้อ) ?? เจ้าหน้าที่จึงนัด เพื่อที่จะเข้ารับการรักษาในวันที่ 9 เมษายน เวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ผมจึงรีบเข้ารับการรักษาตามปกติของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แล้วในวันที่ 10 เมษายน ผมได้ลองเข้าไปเช็คผลตรวจโควิด-19 ในไลน์ของโรงพยาบาลเอกชนที่ตรวจรอบแรกอีกครั้ง ด้วยความอยากรู้ของผม ผลที่ปรากฏขึ้นมาเป็น Not Detected (ไม่ติดเชื้อ) ผมจึงรีบติดต่อกลับทางโรงพยาบาลฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบผลอีกครั้ง เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้แจ้งให้ผมไปตรวจอีกครั้ง ต่อมาช่วงประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่แจ้งผลการตรวจโควิด-19 อีกครั้งว่าผลตรวจของผมเป็นลบ หรือไม่ติดเชื้อโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่ได้ย้ายผมไปอยู่อีกห้อง ร่างกายของผมปกติดีทุกอย่าง ไม่มีไข้ ไม่มีอาการอะไรเลย แล้ววันนี้ 11 เมษายน เข้าพบแพทย์ และสามารถกลับบ้านได้

ผมต้องขออภัยทุกคนที่เกี่ยวข้องกับผม สัมผัสใกล้ชิดกับผม และร้านต่างๆ คลินิก ที่ผมเข้าใช้บริการด้วยนะครับ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ครับ ???

ปล.สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมครั้งนี้ไม่เป็นธรรมสำหรับตัวผมเลย ผมไม่อยากให้เรื่องที่ผิดพลาดแบบนี้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก และมันเกิดผลกระทบมากกับตัวผม ครอบครัวผม และคนรอบข้างผม ทุกคนรอบข้างผมเจอผลกระทบเป็นอย่างมาก”

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่เจ้าของเฟสบุ๊ก นายธวัชชัย หรือเจมส์ เล่าให้ฟังว่า ตนได้เข้าไปตรวจโควิดที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 64 และได้รับแจ้งจาก รพ.ว่าผลตรวจเป็นบวก ให้เข้ารับการรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ในวันที่ 9 เม.ย. ตนก็เข้ารับการรักษา โดยอยู่ร่วมห้องกับผู้ป่วยอีกคนหนึ่ง จนถึงวันที่ 10 ก็รู้สึกแปลกใจกับอาการป่วยของตนซึ่งไม่มีอาการ จึงเข้าไปเช็ครายชื่อผู้ป่วยในอินเตอร์เน็ตก็ไม่พบรายชื่อของตน จึงโทรสอบถาม รพ.ที่ตรวจรอบแรกก็ไม่มีคำตอบที่แน่ชัด และบอกว่าอาจเป็นความผิดพลาดจากข้อข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ตนจึงขอให้ทาง รพ.เชียงรายฯ ตรวจซ้ำ ซึ่งผลตรวจก็ออกมาเป็นลบ ทันทีที่ผลตรวจออกมาทาง รพ.ก็แยกห้องให้ และให้ออกจาก รพ.ในวันที่ 11 เม.ย. มากักตัวสังเกตุอาการที่บ้านตนเอง โดยให้ไปตรวจผลซ้ำอีกในวันที่ 15 และ 22 เม.ย. 64

“การไปตรวจโควิดครั้งแรก ตนไปตรวจ รพ.เอกชน โดยมีค่าใช้จ่าย 3,000 บาท เพราะเคยไปสถานที่ที่พบการแพร่เชื้อ แต่พอ รพ.แจ้งผลตรวจผิดพลาดดังกล่าว มันส่งผลกระทบต่อทั้งตนเอง และคนรอบข้างเป็นอย่างมาก จากที่ไม่มีโรคก็ต้องกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงเพราะไปอยู่ใกล้ผู้ติดเชื้อ บุคคลและสถานที่ที่ระบุในไทม์ไลน์ของตนก็ต้องไปตรวจโรค กักตัว ทำความสะอาด เป็นที่รังเกียจของสังคม คนในหมู่บ้านของตนไปซื้อของนอกหมู่บ้านก็ไม่มีคนขายให้ ไปทำงานเขาก็ไล่กลับบ้าน ที่หมู่บ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ตอนนี้ไม่มีพ่อค้าแม่ค้ากล้าเข้ามารับซื้อผลิตผลในหมู่บ้าน ได้รับผลกรทบกันหมด ตนอยากจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดดังกล่าว แต่ต้องรอให้พ้นระยะการกักตัวไปก่อน ค่อยพิจารณาอีกที” นายเจมส์กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น