เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำนักสงฆ์พระธาตุดอยเลี่ยม บ้านวังผา ม.2 ต.สันมะค่า อ.ป่าแดด จ.เชียงราย เพื่อติดตามกรณีที่หลวงพ่อสว่าง ญาณวโร เจ้าอาวาสสำนักปฎิบัติธรรมโนนโบสถ์เสถียรธรรม ต.วังบัว อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หายตัวออกจากวัดพร้อมเงินผ้าป่ากว่า 2 ล้านบาทและรถกระบะ จนชาวบ้านวอนขอให้นำรถกลับมาคืน
ที่สำนักสงฆ์พระธาตุดอยเลี่ยม ปัจจุบันมีพระจำพรรษาอยู่จำนวน 4 รูป โดยมีพระอาจารย์มหาภูวนาท มหาปทุโม เป็นรักษาการเจ้าอาวาสฯ และมีนายบรรหาร สุดสันธ เป็นว่าที่มัคนายกฯ
รักษาการเจ้าอาวาสฯ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เพิ่งได้ข่าวว่าหลวงพ่อสว่าง อดีตพระลูกวัดสำนักสงฆ์พระธาตุดอยเลี่ยมหายตัวไปพร้อมกับเงินผ้าป่ากว่า 2 ล้านบาท โดยมีคนขับรถซึ่งได้ดูข่าวมาเล่าให้ฟัง โดยส่วนตัวไม่ขอออกความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะไม่ได้รู้ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ที่สำนักสงฆ์ได้ถูกพาดพิงว่าหลวงพ่อจะนำเงินดังกล่าวมาพัฒนาวัด ตนไม่ได้รับการติดต่อเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างได ตั้งแต่หลวงพ่อสว่างได้บวชและมาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์พระธาตุดอยเลี่ยมมา 5 ปี ก่อนจะออกจากวัดไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ก็ได้ข่าวว่าไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร ส่วนตนไม่เคยได้รับการติดต่อเพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีเบอร์โทรศัพท์กัน
ด้านนายบรรหาร สุดสันธ อายุ 64 ปี ว่าที่มัคนายกฯ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า สำนักวงฆ์พระธาตุดอยเลี่ยมสร้างมาได้ประมาณเกือบ 20 ปี โดยหลวงพ่อสว่างที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ ในอดีตเป็นคนพื้นเพอยู่ที่หมู่บ้านนี้มาตั้งแต่เกิด มีพี่น้อง 3 คน หลวงพ่อสว่างเป็นคนสุดท้อง โดยได้บวชและมาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์พระธาตุดอยเลี่ยมเมื่อ 7 ปีก่อน โดยอยู่เป็นพระลูกวัดได้ 5 ปี เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย ก่อนจะออกจากวัด จนกระทั่งทราบข่าวว่าไปเป็นเจ้าอาวาสวัดอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร เมื่อเดือน พ.ค. ปี 63 ตนได้ทราบข่าวจากทีวีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลวงพ่อสว่างจะหนีหายพร้อมเงินผ้าป่ากว่า 2 ล้านบาท เพราะยังไม่เคยมีญาติโยมที่ไหนนำผ้าป่ามาถวายด้วยยอดเงินขนาดนั้น
“หลังทราบข่าวตนได้สอบถามลูกสาวที่รู้เรื่องดีกว่าจนทราบว่า หลวงพ่อสว่างกับลูกสาวที่ทำงานอยู่ประเทศฟินแลนด์ ได้จัดหางบประมาณที่จะมาพัฒนาวัด ได้เงินมาประมาณ 12,000 แต่ไม่ทราบว่าเป็นเงินสกุลอะไร และจะแลกเป็นเงินไทยได้กี่บาท ตนคิดว่าเงินแค่ 1.2 หมื่นไม่น่าจะสร้างอะไรได้มาก และตนก็ไม่เคยได้รับการติดต่อว่าจะมีการนำเงินดังกล่าวแบ่งมาพัฒนาที่สำนักสงฆ์ฯ เพราะที่นี่มีผู้ดูแล การจะสร้างจะถวายอะไรก็ต้องมาคุยมาปรึกษากันก่อน ไม่ใช่อยากจะสร้างอะไรก็ได้ แต่ตนก็ยังไม่เคยได้รับการติดต่อเพื่อนำเงินมาพัฒนาวัดแต่อย่างได และหากจะสร้างท่านก็ต้องไปสร้างที่วัดโน่น เพราะท่านออกจากสำนักสงฆ์แห่งนี้ไปตั้งนานแล้ว ไม่น่าจะมาสร้างอะไรที่นี่ ตอนนี้ตนอยากให้หลวงพ่อได้ออกมาชี้แจงให้ทุกคนเข้าใจ ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก” นายบรรหารกล่าว
สุดท้ายรักษาการเจ้าอาวาสฯ ได้ฝากไปยังผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้สื่อข่าว ให้นำเสนอข่าวให้ครบถ้วนรอบด้านครอบคลุมทุกมิติ เพราะทุกวันนี้มีข่าวเสื่อมเสียเกี่ยวกับพระสงฆ์ไม่เว้นวัน ต้องนำเสนอข่าวให้ตรงกับข้อเท็จจริง ด้วยความระมัดระวัง
ร่วมแสดงความคิดเห็น