เมียนมายิงเรือไทยคำรบสอง ชาวบ้านหวั่นไม่กล้าเดินเรือ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน

ทหารเมียนมาฐานปฏิบัติการด๊ากวิน สังกัดพั น.คร.340 ยิงเรือราษฎรไทยบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นคำรบ 2 ขณะลำเลียงไก่สดไปส่งให้ร้านค้า ที่บ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง ด้านราษฎรบ้านแม่สามแลบ หนัก พร้อมใจกันหยุดเดินเรือ และจะไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคง หลังไม่ได้รับการคุ้มครองพลเมืองจากรัฐ ขณะที่สถานการณ์ในเมียนมา ทหารเมียนมา 4 กองพันทุ่มกำลังเข้าพื้นที่ กองพลน้อยที่ 5 เขตกะเหรี่ยง ตรงข้ามอำเภอแม่สะเรียง หวังบดขยี้กองทัพกะเหรี่ยง ส่งผลให้มีการปะทะอย่างหนัก

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 เวลา 09.00 น.ทหารเมียนมา สังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็ว 340 ( พัน.คร.340 ) ฐานปฏิบัติการด๊ากวิน ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ยิงเรือหางยาวขนาดเล็ก ของนายป่อกาเดอ และเรือหางยาวขนาดใหญ่ของ นายคาชุ ขณะแล่นเรือผ่านฐานฯของทหารเมียนมา เพื่อนำสินค้า เครื่องอุปโภค-บริโภค ได้แก่ ข้าวสาร อาหารแห้งและไก่สด ไปส่งให้กับร้านค้าในหมู่บ้านท่าตาฝั่ง ที่มีทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 3604 ตั้งฐานปฏิบัติในหมู่บ้านดังกล่าว

นายป่อกาเดอ เจ้าของเรือ ระบุว่า เรือของเขาวิ่งในเขตไทย เพื่อนำสินค้าที่มีการสั่งซื้อจากเจ้าของร้านค้าในหมู่บ้านท่าตาฝั่ง เมื่อแล่นเรือไปถึงหน้าฐานฯจุดตรวจของทหารเมียนมา ทหารเมียนมาได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาทันที ทั้งที่เรือแล่นอยู่ในร่องน้ำฝ่ายไทย เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความหวั่นวิตกให้กับราษฎรไทย ในหมู่บ้านแม่สามแลบเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแต่อย่างใด ชีวิตราษฎรตามแนวชายแดนเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย โดยตอนนี้ทางเจ้าของเรือในหมู่บ้านแม่สามแลบ ซึ่งมีเรืออยู่จำนวนประมาณ 20 กว่าลำ จะหยุดเดินเรือในแม่น้ำสาละวิน จนกว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จะสามารถรับรองความปลอดภัยให้กับราษฎรในหมู่บ้านคนไทย ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำสาละวินทั้งหมด

ก่อนหน้านั้น หลังจากที่ทหารเมียนมาก่อเหตุยิงเรือไทย เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 ต่อมาวันที่ 19 เมษายน 2564 เวลา 09.30 น.เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยบ้านแม่สามแลบ พร้อมด้วย ปลัดอำเภอสบเมย กำนัน ผู้ใหญ่บ้านแม่สามแลบ ได้มีการประชุมชาวบ้านต่อกรณีที่ทหารเมียนมายิงเรือคนไทย ปรากฏว่าในการประชุม ได้สรุปว่าให้เรือไทยทุกลำที่จะวิ่งผ่านจุดตรวจทหารเมียนมา ฐาน ฯ ด๊ากวิน จะต้องแวะไปให้ทหารพม่าตรวจสอบเรือและสินค้าทั้งหมด ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับราษฎรในหมู่บ้าน และมีมติว่าเรือทุกลำจะหยุดวิ่ง จนกว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจะเคลียร์กับทหารเมียนมาได้ว่า ห้ามทหารเมียนมายิงเรือคนไทยที่ติดธงชาติไทยทุกคัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ได้มีราษฎรในบ้านแม่สามแลบ ถูกทหารพม่าจับกุมไปจำนวน 6 คน โดยทางการไทยไม่ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด จนล่าสุดคนทั้งหมดได้กลับมาและบอกว่าได้ถูกทางการเมียนมา นำตัวคุมขังติดคุกเมียนมา เป็นเวลา 10 ปี และเมื่อติดครบจึงได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน ขณะที่ญาติพี่น้องของคนเหล่านั้นคิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว และได้มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ทุกปี

หลังจากที่ทหารเมียนมายิงเรือไทยในวันที่ 18 เมษายน 2564 เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไทย ฐานปฏิบัติการบ้านท่าตาฝั่ง กับทหารเมียนมา ได้เดินทางไปพบปะกับ พ.ต.โซโมยะ รอง ผบ.พัน.คร.340 ฐานฯด๊ากวิน พิกัด LV 612999 ซึ่งอยู่ตรงข้ามฐานทหารไทย โดยผลการเจรจา ทางทหารเมียนมาได้แจ้งว่า ได้รับคำสั่งจาก ผู้บังคับบัญชา ให้ตั้งจุดตรวจบริเวณหน้าฐานฯ ด๊ากวิน โดยเรือทุกลำที่แล่นผ่านจุดตรวจดังกล่าว ต้องจอดเพื่อให้ทำการตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมาย และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนชาวเมียนมา ที่ประท้วงรัฐบาลหลบหนีเข้าไทย ส่วนการยิงเรือนั้น เป็นการยิงขู่ แต่กระสุนอาจจะแฉลบไปโดนเรือ และตั้งแต่นี้ไป ให้ทางบ้านแม่สามแลบ ส่งยอดจำนวนเรือที่จะวิ่งผ่านจุดตรวจของทหารเมียนมา ให้ฐานฯ ด๊ากวินด้วย โดยมีข้อแม้ว่า ทางฝ่ายทหารเมียนมาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประชาชนชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่บริเวณ บ้านอีทูโกร และ บ้านอูแวโกร

สำหรับเครื่องบินที่บินเข้ามาในพื้นที่ของกองพลน้อยที่ 5 เคเอ็นยู เป็นการบินในพื้นที่ของฝ่ายทหารกะเหรี่ยงไม่ได้ไปรบกวนประชาชนกะเหรี่ยงแต่อย่างใด สำหรับการใช้เครื่องบินโจมตีเคเอ็นยูนั้น เนื่องจากทาง เคเอ็นยู มีการวางพลซุ่มยิงและวางกับระเบิดในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และขอให้ฝ่ายไทยเจรจากับ เคเอ็นยู ให้ทหารเมียนมาสามารถส่ง อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารและเสบียงกรัง ให้กับฐานทหารเมียนมา ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวินได้อย่างสะดวก และนอกจากนั้นขอให้ไทยช่วยเจรจากับเคเอ็นยู ให้อำนวยความสะดวกในการเข้ามาซื้อสินค้าและอาหารที่บ้านแม่สามแลบได้ ส่วนเรือของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน หากจะวิ่งในลำน้ำสาละวิน ให้ติดธงไทยไว้ที่หัวเรือและท้ายเรือ ทางทหารเมียนมาจะไม่ยิง แต่หากเป็นเรือชาวบ้านทั่วไป หากไม่แวะป้อมยามรักษาการณ์ของเมียนมา จะถูกยิงทุกลำ

ล่าสุดสถานการณ์ในเขตเมียนมา พื้นที่รับผิดชอบของ กองพลน้อยที่ 5 เคเอ็นยู เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2564 ทหารเมียนมา สังกัด พัน.ร.19 จำนวน 40 นาย , พัน.คร.341 ส่วนหน้า จำนวน 40 นาย , พัน.คร.434 ส่วนหน้า จำนวน 40 นาย และ พัน.คร.340 จำนวน 40 นาย รวม 160 นาย พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ เดินทางออกจากที่ตั้ง ภาคทหารบกตะวันออกเฉียงใต้ จ.เมาะละแหม่ง รัฐมอญ ผ่านพื้นที่ จ.ผาอัน ไปถึง บ้านซอแบวเดอ จ.ผาปูน รัฐกะเหรี่ยง เดินทางเข้าสู่พื้นที่ เขตยึดครองของทหารกะเหรี่ยงสังกัด กองพลน้อยที่ 5 เคเอ็นยู ตรงข้ามพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ห่างชายแดนไทย-เมียนมา ประมาณ 40 กม. เพื่อสนับสนุนและคุ้มกันเส้นทางในการเข้าโจมตีทหารกะเหรี่ยง แต่กองทหารพม่าดังกล่าว ยังไม่สามารถปฏิบัติการได้ เนื่องจากถูกทหารกะเหรี่ยง เคเอ็นยู ส่งกำลังไปปิดล้อมและสู้รบกันอยู่

ร่วมแสดงความคิดเห็น