กรมอนามัย เผย ผู้มีความเสี่ยงสูง พบติดเชื้อ-แพร่เชื้อได้ง่าย เลี่ยงคลุกคลีกับสมาชิกในบ้าน

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผู้มีความเสี่ยงสูง หากติดเชื้อสามารถแพร่ไปสู่คนในครอบครัวได้ แนะให้หมั่นสังเกตอาการตนเอง พร้อมกักตัวเอง 14 วัน เลี่ยงคลุกคลีกับสมาชิกในบ้านเด็ดขาด เพื่อลดการแพร่กระจายและติดเชื้อโควิด -19
​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 ภาครัฐและประชาชนในทุกพื้นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ หรือมีการพบปะกับผู้ติดเชื้อในพื้นที่ปิด อากาศไม่ถ่ายเท อยู่ห่างจาก ผู้ติดเชื้อไม่เกิน 1 เมตร นานกว่า 15 นาที หรือคุยในระยะ 1 เมตรนานกว่า 5 นาที ไอ จามใส่กัน โดยไม่มี การป้องกัน รวมทั้งเดินทางไปในพื้นที่หรือสถานที่เสี่ยง และให้สังเกตอาการตนเอง หากพบว่ามีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส เหนื่อยหอบ หรือมีอาการที่พบเพิ่ม คือ ตาแดง มีผื่นแดงตามตัว น้ำมูก น้ำตาไหล นอกจากนี้สามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ซึ่งปัจจุบันสามารถตรวจวัดเบื้องต้นได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล แต่สามารถใช้เครื่องมือขนาดเล็ก เช่น Smart Phone , Smart Watch ที่มีระบบ Sensor หรือเครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือดปลายนิ้วแบบพกพา (Pulse Oximeter) วัดค่าออกซิเจนได้ หากพบต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่ามีหรืออาจมีภาวะพร่องออกซิเจนแบบไม่แสดงอาการ ต้องรีบปรึกษาหรือไปพบแพทย์ทันที


​นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ผู้มีความเสี่ยงสูง หากอาศัยอยู่ภายในบ้านร่วมกับผู้อื่น เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อจากตนเองไปสู่บุคคลอื่น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้ 1) หยุดงาน หยุดเรียน ไม่ออกไป นอกบ้านหรือที่พักอาศัย ไม่เดินทางไปที่ชุมชนหรือที่สาธารณะอย่างน้อย 14 วัน นับแต่วันที่เดินทางจากพื้นที่ระบาด หรือวันสุดท้ายที่สัมผัสผู้ป่วย 2) หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดบุคคลอื่น โดยเฉพาะในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ หากจำเป็น ต้องสวมหน้ากากอนามัย และอยู่ห่างกันไม่น้อยกว่า 2 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ไม่คลุกคลีกับเด็กและผู้สูงอายุในบ้านโดยเด็ดขาด 3) สังเกตอาการตัวเองและวัดไข้ทุกวัน หากมีไข้สูงกว่า 37.5 เซลเซียส ร่วมกับอาการผิดปกติทางผิวหนัง ไอ หรืออาการทางระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ให้รีบไปพบแพทย์
4) ในแต่ละวันให้รวบรวมขยะ หน้ากากอนามัยไว้ในถุง ก่อนทิ้งให้ใส่น้ำยาฟอกขาว 2 ฝา ก่อนใส่ถุงอีกชั้น ปิดปากถุงให้สนิท 5) กินอาหารที่มีประโยชน์ ปรุงสุก สะอาด พักผ่อนให้เพียงพอ และ 6) หากิจกรรมผ่อนคลายเพื่อลดภาวะเครียด อีกทั้ง ต้องแยกห้องนอน ห้องน้ำให้ชัดเจน ให้แยกห่างจากผู้สูงอายุ ผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังให้มากที่สุด พร้อมทั้งแยกอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว แยกการกินอาหารและการใช้ห้องน้ำ ห้องส้วมออกจากผู้อื่น แต่หากไม่สามารถแยกห้องได้ ให้ผู้อื่นใช้ห้องน้ำก่อน ส่วนผู้แยกกักตัวใช้เป็นคนสุดท้าย พร้อมทำความสะอาดให้เรียบร้อย เปิดประตูหน้าต่าง เพื่อให้มีการระบายอากาศสู่ภายนอกเป็นระยะ และปิดประตูด้าน ที่เชื่อมต่อกับคนอื่นภายในบ้านจะเปิดได้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าไปประเมินตนเองผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยเซฟไทย” เพื่อประเมินตนเองว่ามีความเสี่ยง ที่จะแพร่เชื้อหรือไม่ เป็นการปกป้องคนในครอบครัวและเพื่อนในที่ทำงานไม่ให้เป็นโควิด-19” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น