ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.แพร่ ได้ออกคำสั่งจังหวัดแพร่ ที่ 1217/2564 เรื่อง ให้ประชาชนในพื้นที่ จ.แพร่ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก (ฉบับที่ 37) ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน โดยกระจายไปทั่วทุกจังหวัดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงสัมพันธ์กับสถานบันเทิง กิจกรรมรวมกลุ่ม งานเลี้ยงสังสรรค์ และแพร่กระจายไปในผู้สัมผัสในครอบครัวกลุ่มเพื่อน และที่ทำงาน เป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น เพื่อให้การป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ จ.แพร่
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (1) (7) และมาตรา 34 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ผู้ว่าราชการ จ.แพร่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.แพร่ โดยความเห็นชอบคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.แพร่ ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 14/2564เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประชาชนในพื้นที่ จ.แพร่ ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกต้อง ตามหลักของกระทรวงสาธารณสุขทุกครั้ง ตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก ทั้งนี้ บุคคลซึ่งอยู่ในเคหสถาน ร้านค้า หรือสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้ง
ข้อ 2 ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 2 มีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรง แก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามนัยมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น สั่ง ณ วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2564 ลงนามคำสั่งโดย นายสมหวัง พ่วงบางโฟ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่ จ.แพร่
สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์/แพร่
ร่วมแสดงความคิดเห็น