ศึกชิงตั๋ว ฟุตซอลโลก ระหว่างทีมไทย เจอ อิรัก ล็อกสนามกลางทั้ง 2 นัด

ศึกชิงโควตาฟุตซอลโลก จากทวีปเอเชีย คู่ ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอิรัก มีแววโยกไปเตะที่สนามกลางประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ทั้ง 2 นัด เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีข้อจำกัดในการจัดการแข่งขัน

สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) จับสลากประกบคู่หา 2 ทีมสุดท้ายเป็นตัวแทนทวีป ปรากฏว่า ทีมชาติไทย อันดับ 18 ของโลก จะพบ อิรัก อันดับ 56 ของโลก โดยตามโปรแกรม ไทยต้องไปเยือนก่อน วันที่ 20 พ.ค. แล้วกลับมาเตะในถิ่น วันที่ 25 พ.ค. อีกคู่ เวียดนาม พบ เลบานอน ทีมชนะแต่ละคู่จะเข้ารอบสุดท้ายฟุตซอลโลก ที่ประเทศลิทัวเนีย ซึ่งเริ่มจะแข่งวันที่ 12 ก.ย.นี้

ในส่วนของสนามแข่งขันทีมชาติไทยนั้น ก่อนหน้านี้มีปัญหาว่า จะสามารถใช้ที่ใดได้ เพราะสนามหลักๆ บางกอก อารีนา กับนิมิบุตรกลายเป็นโรงพยาบาลสนาม ขณะที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ก็อยู่ระหว่างการปรับปรุง และส่วนหนึ่งก็ใช้เป็นพื้นที่คัดกรองผู้ป่วย

บิ๊กป๋อม อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด ได้รับข้อมูลว่า เกมคู่ ไทย กับ อิรัก การจัดแบบเหย้าเยือน ไม่ว่าสนามไหน ก็ค่อนข้างลำบาก สถานการณ์ที่อิรักก็ยากจะจัด หรือในไทย ก็มีข้อกำหนดต่างๆ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิวหารือกับ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) นอกจากนี้ หลังจากเตะนัดแรกวันที่ 20 พ.ค. กลับมาไทย ก็จะต้องกักตัวอีกหรือไม่ เพราะต้องเตะวันที่ 25 พ.ค. ประเด็นนี้ก็เป็นปัญหา

นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ถึงตอนนี้ต้องบอกว่า โอกาสที่จะจัดใน อิรัก และ ไทย เป็นไปได้น้อย แนวโน้มที่มีโอกาสสูงคือ ไปจัดสนามกลาง ประเทศยูเออี ที่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องการกักตัว ตอนนี้ได้หารือกับ อิรัก รวมทั้ง ยูเออี แล้ว จากนั้นจะแจ้งกับ เอเอฟซี ต่อไป ซึ่งก็จะไปเตะที่ ยูเออี ทั้ง 2 นัด และสำหรับทีมชาติไทย อาจต้องปรับตัวมากหน่อย ในเรื่องสภาพอากาศ อาจต้องบินไปตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. แต่ก็ต้องดูเรื่องงบประมาณด้วย

ส่วนสถานที่ฝึกซ้อมนั้น บิ๊กป๋อม กล่าวว่า จะใช้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก ตอนนี้ประสาน กกท. ขออนุญาตกับทาง กรุงเทพมหานคร อย่างเป็นทางการ

ร่วมแสดงความคิดเห็น