กรม อ. เดินหน้าหนุนจัดตั้ง รพ.สนาม ในเขตสุขภาพที่ 4 ประเมินสิ่งแวดล้อมพบ 3 ด้านต้องปรับปรุง

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มอบให้ศูนย์อนามัยทุกแห่งร่วมลงพื้นที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนามและประเมินแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมทั้ง 8 ด้าน สำหรับพื้นที่สระบุรี ศูนย์อนามัยที่ 4 ลงประเมินการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมพบต้องเร่งปรับปรุง 3 ด้านคือ ด้านการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ ด้านการจัดการน้ำใช้ และด้านสุขาภิบาลในการซักฟอก เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติ ลดการแพร่เชื้อโรคโควิด-19

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ศูนย์อนามัยทุกแห่งร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปร่วมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามมุ่งเน้นการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ชุมชนโดยรอบมีความมั่นใจ และไม่เกิดข้อขัดแย้งต่อกัน โดยมีแนวทางปฏิบัติ 8 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านสุขาภิบาล จัดให้มีสถานที่เตรียม ปรุง ประกอบอาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ 2) ด้านน้ำดื่ม น้ำใช้ โดยน้ำดื่มเป็นน้ำบรรจุขวดหรือใส่ในภาชนะที่ปิดสนิท หรืออาจจัดให้มีอุปกรณ์สำหรับต้มน้ำ กรณีน้ำใช้เป็นน้ำประปาควรมีคลอรีนอิสระคงเหลือไม่น้อยกว่า 1 มิลลิกรัมต่อลิตร 3) ด้านสุขาภิบาล และความปลอดภัยในการซักฟอก ต้องมีโรงซักฟอกที่สามารถทำความสะอาดผ้า และทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ใช้สารฆ่าเชื้อที่เหมาะสม หรือซักที่อุณหภูมิน้ำไม่ต่ำกว่า 71 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25 นาที 4)

ด้านการจัดการส้วมและสิ่งปฏิกูล จัดให้มีห้องส้วมที่ถูกหลักสุขาภิบาลและปลอดภัย และมีระบบเก็บกัก สิ่งปฏิกูลที่ถูกหลักสุขาภิบาล 5) ด้านการควบคุมสัตว์และแมลงนำโรค มีระบบการป้องกันและกำจัดสัตว์ แมลงพาหะนำโรค เป็นประจำ 6) ด้านการจัดการน้ำเสียให้มีระบบบำบัดน้ำเสียที่สามารถใช้การได้ดี รองรับปริมาณน้ำเสีย 800 ลิตร/เตียง/วัน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ฆ่าเชื้อในน้ำทิ้งโดยตรวจวัดปริมาณคลอรีนอิสระคงเหลือในน้ำทิ้งทุกวันให้มีค่าไม่ต่ำกว่า 1 มิลลิกรัมต่อลิตร 7) ด้านการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ ต้องมีบริเวณที่พักรวมมูลฝอยติดเชื้อแยกเฉพาะ โดยต้องมีลักษณะปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และสะดวกต่อการเก็บขนไปกำจัด และ 8) ด้านความสัมพันธ์กับชุมชน โดยต้องมีแนวทางสร้างความรู้ ความเข้าใจ และมาตรการป้องกันด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ชุมชนรับทราบและไม่เกิดข้อขัดแย้งต่อกัน

ทางด้าน แพทย์หญิงไสววรรณ ไผ่ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 4 สระบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ศูนย์อนามัยที่ 4 ได้มอบให้นักวิชาการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมพร้อมเครื่องมือตรวจวัดด้านคุณภาพอากาศและน้ำเสีย ร่วมทีมในการประเมินสภาพแวดล้อมของโรงพยาบาลสนามในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งได้ดำเนินการประเมินแล้ว 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี รองรับผู้ป่วย 40 คน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ(หันตรา) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองรับผู้ป่วย 110 คน โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย จังหวัดนนทบุรี รองรับผู้ป่วย 1,050 คน อาคารกีฬา 3 มหาวิทยาลัยศรีนครินทราวิโรจน์ องครักษ์ จังหวัดนครนายก รองรับผู้ป่วย 200 คน และค่ายลูกเสือเจ็ดคต–โป่งก้อนเส้า อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี รองรับผู้ป่วย 100 คน

โดยผลจากการประเมินทั้ง 5 แห่ง พบว่าส่วนใหญ่ดำเนินการได้ตามมาตรการ แต่ยังมี 3 ด้าน ที่ต้องเร่งปรับปรุง ได้แก่ 1) ด้านการจัดการน้ำใช้โดยต้องมีปริมาณคลอรีนอิสระคงเหลือไม่น้อยกว่า 1 มิลลิกรัมต่อลิตร 2) ด้านสุขาภิบาลความปลอดภัยในการซักฟอกต้องมีโรงซักฟอกที่สามารถทำความสะอาดผ้าและทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 3) ด้านการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ ต้องมีบริเวณที่พักรวมมูลฝอยติดเชื้อแยกเฉพาะโดยต้องมีลักษณะปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ซึ่งจะได้ร่วมกับพื้นที่ดำเนินการให้ได้ตามมาตรการที่กำหนดต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น