โรงแรม ที่พักเชียงใหม่อ่วม คาด พ.ค.นี้ อัตราเข้าพักทั่วประเทศ อยู่ที่ 9% จุกเจ๊งถ้วนหน้า

ผู้ประกอบการโรงแรม ย่านราชมรรคา นครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบวิกฤตหนักกว่าทุกครั้ง บรรดากิจการ โรงแรม ที่พัก ตามแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ตามหัวเมืองต่างๆ พยายามดิ้นรน ประคับประคองกิจการ เข้าไปพูดคุย เจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อพักหนี้ ขอความช่วยเหลือต่างๆ หรือแม้แต่ประกาศขาย เปลี่ยนมือ ดิ้นรนทุกรูปแบบก็ยังไม่มีทีท่า ความชัดเจนว่าจะดีขึ้นในช่วงใด ทั้งนี้รายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานสรุปผลสำรวจเรื่องผลกระทบจากไวรัส โควิด-19 ต่อภาคธุรกิจไทยในเดือน เม.ย. 2564 ระดับการฟื้นตัวของธุรกิจในภาพรวมปรับลดลงจากเดือนก่อน ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบทันที

จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกเดือน เม.ย. ได้รับผลกระทบมากกว่าธุรกิจอื่น ทำให้กิจการโรงแรม ที่พักใช้นโยบายปรับเปลี่ยนการจ้างงาน อาทิ สลับกันมาทำงาน ลดชั่วโมงทำงาน ด้านผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม แบ๊งค์ชาติ ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย จัดทำในช่วง เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก เม.ย. อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 18% น้อยกว่าที่คาด โรงแรม ที่พักจำนวนมากถูกยกเลิก
การจองห้องพัก ผู้ประกอบการกว่า 80% คาดว่ารายได้จะถูกกระทบมากกว่าการแพร่ระบาดระลอก 2 และคาดการณ์ว่าอัตราเข้าพักเฉลี่ยในเดือน พ.ค. 2564 นี้จะอยู่ที่ร้อยละ 9 และต่ำกว่า 5% ในภาคเหนือ

ผลสำรวจครั้งนี้ ยังระบุข้อมูลที่น่าสนใจว่า ผู้ประกอบการที่พักโรงแรม 56% มีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และอีกราวๆ 47% จะมีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น
สมาคมโรงแรมไทย ภาคเหนือ (เชียงใหม่ ) ยืนยันว่า เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องที่ผู้ประกอบการที่พักโรงแรมเสนอต่อภาครัฐใน 3 ประเด็นหลักๆ ได้แก่ 1. การสนับสนุนค่าจ้างพนักงานเดิม 2. การพักชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย และ 3. มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึง การสร้างความชัดเจน และความรวดเร็วในการกระจายวัคซีน

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดัง ของเชียงใหม่ ระบุว่า โครงการพัฒนาโรงแรม ที่พัก ที่มีการลงทุนก่อนหน้าจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในรอบ 1-2 นั้น ยังคงดำเนินไป ซึ่งเชียงใหม่ มีกลุ่มทุนท้องถิ่นและ รูปแบบการร่วมทุนจำนวนหนึ่ง พัฒนาก่อสร้างโครงการ โรงแรมที่พัก หลายแห่ง ไม่ว่าจะ ย่านฟ้าฮ่าม, ย่านท่าแพ
” เข้าใจว่า บางส่วนลงทุนพัฒนา เพื่อแสวงหากำไร จากการซื้อมาขายไป สร้างรอขาย แต่บางส่วนเล็งเห็นศักยภาพเชียงใหม่ ช่วงหลังโควิด-19 ยังมีความหวัง ซึ่งช่วง 1-2 ปีต่อจากนี้ เศรษฐกิจหัวเมืองท่องเที่ยวน่าจะมีอะไรๆเปลี่ยนแปลงไปมาก ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น