เชียงรายพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 3 ราย ผวจ.ลั่น! หากกลางเดือน พ.ค. สถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่ดีขึ้นอาจต้องประกาศเคอร์ฟิวเป็นรายพื้นที่

เมื่อเช้าวันพุธที่ 5 พ.ค. 64 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ ครั้งที่ 13/2564 พร้อมด้วย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ ห้องประชุมจอมกิตติ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ถ.แม่ฟ้าหลวง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมประชุมด้วยความพร้อมเพรียง

โดยที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์ของผู้ป่วยของจังหวัดเชียงราย ณ วันที่ 5 พ.ค. 64 มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 438 ราย หายป่วยแล้ว 283 ราย ยังคงรักษาอยู่ 154 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด 319 ราย และติดเชื้อจากต่างจังหวัด 119 ราย อำเภอที่มีผู้ป่วยสูงสุด ได้แก่ อำเภอแม่สาย อำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอพาน ส่วนพฤติกรรมการติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยซึ่งเป็นบุคคลในครอบครัวและบุคคลใกล้ชิดจากการรับประทานอาหารร่วมกัน การร่วมวงสังสรรค์และการอยู่ใกล้ชิดกันเป็นจำนวนมาก

จากนั้น ที่ประชุมยังได้พิจารณามาตรการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทั้งการปรับความเข้มข้นการดำเนินงานพื้นที่ควบคุม การปิดพื้นที่การแพร่ระบาดและกระจายเชื้อโรค การตั้งด่านความมั่นคงสกัดกั้นตามแนวชายแดน และการมาตรการทางสังคม ปิดร้านค้าผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย เป็นเวลา 30 วัน

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย กล่าวในตอนท้ายการประชุมว่า มาตรการที่ต่าง ๆ ที่ออกไปนั้นให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคระดับอำเภอ มีนายอำเภอเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ให้นำมาตรการดังกล่าวไปใช้อย่างเข้มข้น หากดำเนินการแล้วไม่สามารถควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดไม่ดีขึ้น หลังวันที่ 15 พ.ค. 64 ก็พร้อมจะประกาศห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลาห้าม หรือเคอร์ฟิวเป็นรายพื้นที่ต่อไป

ส่วนการควบการแพร่ระบาดในทางการแพทย์ นอกจากการออกค้นหาผู้ป่วยในเชิงลึกแล้ว ในเดือนมิถุนายนนี้ จังหวัดเชียงราย มีเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชน จำนวน 380,000 ราย ประชาชนสามารถลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีน ได้ใน 3 ช่องทาง คือ ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านแอฟฟลิเคชั่นหมอพร้อม โรงพยาบาลชุมชนใกล้บ้าน และลงทะเบียนผ่านอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านได้ทุกหมู่บ้าน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำชับให้หน่วยงานความมั่นคงตามแนวชายแดนเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงาน ป้องกันคนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหมาย เนื่องจากมีข้อมูลผู้ป่วยใน สปป.ลาว เพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะในแขวงบ่อแก้ว ซึ่งมีชายแดนติดกับอำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ และอำเภอเวียงแก่น ของจังหวัดเชียงรายด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น