เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2564 ที่ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์สุริยพงณช์ สุริยะพงฑากุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ(ด้านเวชกรรมป้องกัน ) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน และ แพทย์หญิงภาวิณี เอี่ยมจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน แถลงข่าวสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ของจังหวัดลำพูน
พบรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เพิ่มเติมจำนวน 7 ราย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2564 จำนวน 283 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 58 ราย รักษาหายแล้ว 221 ราย เสียชีวิตยอดสะสมรวม 4 ราย
ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า สำหรับยอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัด เวลามี จำนวน 283 ราย รักษาหายแล้ว 221 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 58 ราย พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลลำพูน 37 ราย อยู่ในห้อง ICU หรือ Intensive Care Unit จำนวน 6 ราย เป็นจำนวนเต็มของเตียง ICU. มีภาวะปอดบวมทั้งหมด อยู่ที่โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลลำพูน สาขาตำบลเวียงยอง แห่งที่ 1 จำนวน 16 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลสนาม องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน แห่งที่ 2 ปิดชั่วคราว โรงพยาบาลอำเภอลี้ จำนวน 3 ราย โรงพยาบาลอำเภอบ้านโฮ่ง จำนวน 2 ราย
สำหรับวันนี้(5พ.ค.64) เป็นวันแรกที่ทางโรงพยาบาลลำพูน ได้เปิดให้บริการห้องตรวจความดันลบ ทางโรงพยาบาลฯได้จัดทำเพิ่มเติมขึ้นมา จากเดิมที่การตรวจไข้หวัดจะอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน หรือ ER(Emergency Room) เก่า อยู่แยกจากอาคาร OPD(Out-Patient Department) 100 ปี แต่เวลานี้เราได้เปิดห้องตรวจความดันลบ โดยค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงห้องประมาณ 1 ล้านบาท มีห้องตรวจความดันลบ 2 ห้อง ฝั่งคนไข้เป็นความดันลบ ฝั่งคนตรวจเป็นความดันบวก วันนี้ได้ทำการเปิดใช้เป็นวันแรกโดยจะทำให้บุคคลากรทางการแพทย์ได้รับความปลอดภัย รวมถึงคนที่เดินผ่านไปผ่านมามีความปลอดภัยด้วย
ในส่วนของวัคซีนต้านโควิด-19 นั้น ทางสาธารณสุขได้เปิดให้ 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรังที่รุนแรง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน และกลุ่มโรคอ้วนคือน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม ทุกกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อน
ทางโรงพยาบาลลำพูน ขอเชิญชวนให้มาใช้บริการจองวัคซีนต้านโควิด-19 โดยให้เขามาจองเวลาที่ท่านจะเข้ามารักการฉีดวัคซีน สามารถเริ่มจองได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะบริการเริ่มฉีดวัคซีน-19 ในวันที่ 7 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม โดยจะทำการฉีดวัคซีนฯให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงจำนวน 1,000 รายต่อวัน เริ่มเวลา 8:00 น. ถึง 16:00 น. สำหรับวิธีจองการฉีดวัคซีนมีหลายวิธี ได้แก่
1. จองได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพสต.
2. จองได้ที่โรงพยาบาลลำพูน ห้องหมายเลข 38
3. สามารถโทรศัพท์ขอรับการจองวัคซีนได้ที่เบอร์ 053-569100 ต่อ 72500 หรือ ต่อห้องเบอร์ 38 เบอร์มือถือ 085-5926311, 095-1988033, 095-8605655 และ 096-1580988
4. ถ้าท่านมีโรคประจำตัวและรักษากับโรงพยาบาลเอกชนมามารถเข้าไปจองคิวได้ที่โรงพยาบาลเอกชน
5. ส่วนต่างอำเภอสามารถโทรศัพท์เข้าไปจองการฉีดวัคซีนได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ของโรงพยาบาลอำเภอนั้นๆ
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า โดยในขณะนี้ประชาขนเกิดความกังวลในเรื่องของการฉีดวัคซีนโควิด-19 หลังจากได้มีข่าวลือโดยมีการลงข้อความผ่านโซเชียลมิเดียทาง Line ลงเพจ Facebook ถึงข้อเสียและผลกระทบต่างๆ หลังจากการฉีดวัคซีน จึงอยากนำเรียนให้ประชาชนได้ทราบว่า ผมได้รับการฉีดวัคซีน-19 พร้อมกับบุคคลากรทีอยู่ด่านหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนตัวแล้วที่ผ่านมาไม่มีอาการที่แสดงถึงผลกระทบหรือผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์แต่อย่างใด นี่เป็นประสบการณ์ตรงจากการที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มา เพราะฉะนั้น จังหวัดลำพูนมีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนจำนวน 55,000 คนนั้น แต่เวลานี้พึ่งฉีดวัคซีนได้แค่ 3,000 คนเท่านั้น เป็นจำนวนที่น้อยมาก ขอเชิญชนพี่น้องประชาชนถ้าเราได้รับการฉีดวัดซีนอย่างทั่วถึง 70 เปอร์เซนต์ของประชากรทั้งหมดเชื้อที่เหลืออยู่ก็จะอ่อนแอลงและหมดสิ้นไปในที่สุด
สำหรับการตรวจหาเชื้อเชิงรุกของจังหวัดลำพูน ในกลุ่มของนักเรียน นักศึกษา กลุ่มสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม และในครัวเรือนผ่านมาเรียบร้อยแล้ว เวลานี้จังหวัดลำพูนได้ทำการตรวจเชิงรุกในกลุ่มของผู้ประกอบการส่งอาหารและผู้ประกอบการขนส่งพัสดุ รวมถึงช่างตัดผม ช่างเสริมสวย ทางจังหวัดลำพูนได้ดำเนินการประชุมขอความร่วมมือและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการกลุ่มเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว เป็นการตรวจเชิงรุกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดลำพูนต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดลำพูน
ด้าน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีน-19 ในขณะนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับการฉีด เพราะว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะลดอาการรุนแรง ลดการเสียชีวิตและทำให้มีการติดเชื้อได้อยากขึ้นสำหรับประชาชนทั่วไปจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน วันที่ 1 กรกฎาคม อยากเชิญชวนให้ประชาชนทุกท่านได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อยให้ครบ 70% จะทำให้คนในชุมชนมีภูมิต้านทานหมู่ ทำให้เชื้อที่หลงเหลือยู่อ่อนแอลง แต่อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่เรายังไม่ได้ฉีดวัคซีนครบ 70 เปอร์เซนต์ ประชาชนทุกคนควรต้องปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT คือแนวทางปฎิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ใช้ในการชะลอการระบาดของ โควิด-19 ได้แก่ อย่างเคร่งคัด..รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการ มาตรการ DMHTT คือแนวทางปฎิบัติที่กระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้ใช้ในการชะลอการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แก่
D ย่อมาจาก Distancing คือการเว้นระยะห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1 ถึง 2 เมตร
M ย่อมาจาก Mask Wearing คือการสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยเพื่อลดการฟุ้งกระจายของละอองฝอย
H ย่อมาจาก Hand Washing คือการหมั่นล้างมือบ่อยๆ ทั้งน้ำสบู่ และเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เพราะมีโอกาสที่เราจะนำมามาสัมผัสใบหน้าโดยไม่รู้ตัวได้
T ย่อมาจาก Testing คือตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสม่ำเสมอ อุณหภูมิร่างกายปกติจะอยู่ที่ 37 องซาเซลเซียส
T ย่อมาจาก Thai Cha na คือการสแกนแอปไทยชนะทุกครั้งที่เดินทางไปสถานที่ต่างๆ
ร่วมแสดงความคิดเห็น