เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ที่ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายสุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน , นายแพทย์สุริยพงณช์ สุริยะพงฑากุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน ) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน และ แพทย์หญิงภาวิณี เอี่ยมจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน แถลงข่าวสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ของจังหวัดลำพูน
พบรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เพิ่มเติมจำนวน 2 ราย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2564 สะสม 285 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 56 ราย รักษาหายแล้ว 225 ราย เสียชีวิตรวม 4 ราย
ด้าน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า สำหรับยอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดลำพูนเวลานี้มี จำนวน 285 ราย รักษาหายแล้ว 225 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 56 ราย พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลลำพูน 36 ราย อยู่ในห้อง ICU จำนวน 6 ราย มีภาวะปอดบวมทั้งหมด อยู่ที่โรงพยาบาลสนามตำบลเวียงยอง แห่งที่ 1 จำนวน 15 ราย โรงพยาบาลอำเภอลี้ จำนวน 3 ราย โรงพยาบาลอำเภอบ้านโฮ่ง จำนวน 2 ราย
ในส่วนของวัคซีนฯนั้น ทางสาธารณสุขได้เปิดให้ 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรังที่รุนแรง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน และกลุ่มโรคอ้วนคือน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม ทุกกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อน ทางโรงพยาบาลขอเชิญชวนให้มาใช้บริการจองวัคซีนโควิด-19 โดยให้เขามาจองเวลาที่ท่านจะเข้ามารักการฉีดวัคซีน สามารถเริ่มจองได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะบริการเริ่มฉีดวัคซีน-19 ในวันที่ 7 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม โดยจะทำการฉีดวัคซีนฯให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงจำนวน 1,000 รายต่อวัน เริ่มเวลา 8:00 น-16:00 น.
สำหรับวิธีจองการฉีดวัคซีนมีหลายวิธี ได้แก่
1.จองได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพสต.
2. จองได้ที่โรงพยาบาลลำพูน ห้องเบอร์ 38
3. สามารถโทรศัพท์ขอรับการจองวัคซีนได้ที่เบอร์ 053-569100 ต่อ 72500 หรือ ต่อห้องเบอร์ 38 เบอร์มือถือ 085-5926311, 095-1988033, 095-8605655 และ 096-1580988
4. ถ้าท่านมีโรคประจำตัวและรักษากับโรงพยาบาลเอกชนก็มามารถเข้าไปจองคิวได้ที่โรงพยาบาลเอกชน
5. ส่วนต่างอำเภอสามารถโทรศัพท์เข้าไปจองการฉีดวัคซีนได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ของโรงพยาบาลอำเภอนั้นๆ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวว่า สำหรับทามไลน์ของผู้ป่วยใหม่ 2 รายวันนี้ หรือทามไลนของผู้ป่วยในระยะหลังนี้ จะพบว่าผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดลำพูนและมาจากจังหวัดเสี่ยง ตัวท่านทราบดีว่ามาจากจังหวัดเสี่ยงจะต้องแจ้งพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ที่ท่านจะเข้ามาพักอาศัยอยู่ เช่น ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพสต.) หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) และต้องออกแบบการกักตัวเองเพื่อดูอาการที่บ้าน 14 วัน จะมีเจ้าหน้าที่นำถุงธารน้ำใจมาให้ท่านเพื่อรักษาตัวเองอยู่ที่บ้านตลอด 14 วัน
ที่ผ่านมาในการสอบส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงนั้นบางคนเดินทางเข้ามาในจังหวัดลำพูนหลายวันแล้วแต่ไม่แจ้งผู้นำชุมชน หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ให้ทราบ จึงขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง หากผู้เดินทางมาแต่ไม่ทราบมาตรการของจังหวัด แต่คนในพื้นที่ทราบมาตรการของจังหวัด ให้รีบแจ้งผู้ที่เดินทางมาและแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ทราบทันที เราจะให้คำแนะนำและวีธีการกักตัวให้ผู้ที่เดินทางมาทราบ
ในส่วนภาพรวมของเตียงในทั้งจังหวัดลำพูน เตียงของภาคเอกชนมีว่างอยู่จำนวน 71 เตียง ส่วนเตียงของภาครัฐรวมทุกอำเภอมีเตียงว่างทั้งหมด 311 เตียง
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดสีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามที่ได้ประกาศไว้นั้น จังหวัดลำพูนได้มีคำสั่งออกประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าหากท่านเข้ามาในจังหวัดลำพูน ท่านต้องรายงานตัวให้กับเจ้าพนักงานควบคุมโรคให้ทราบพร้อมทั้งกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน เพราะที่ผ่านมามีผู้เดินทางเข้ามาในพื้นที่แล้วมีเชื้อโควิด-19 แล้วนำมาแพร่เชื้อให้กับคนในครอบครัวและลุกลามบานปลายออกไปกับครอบครัวอื่นๆ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ต่างๆ หากท่านเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 18 จังหวัดแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูนที่ 45/2564 มาตรการการกักตัว สำหรับผู้เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดลำพูน หากผู้ใดฝ่าฝืนปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเดินทาง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน โทร. 053-093725, 062-0197187, 062-9206444
ในส่วนการให้ความช่วยเหลือจากภาครัฐนั้นเมื่อวานนี้(5 พ.ค.64) คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบจำนวน 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเราชนะ ดำเนินการใช้จ่ายสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน , โครงการมาตรการ 33 เรารักกัน จะสนับสนุนเงินให้สัปดาห์ละ 1,000 บาท 2 สัปดาห์ดำเนินการใช้จ่ายสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน , โครงการคนละครึ่ง จะสนับสนุนเงินให้คนละ 3,000 บาท, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 200 บาท 6 เดือน จะดำเนินการช่วงเดือนกรกฎาคม- ธันวาคม , โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้ต้องการให้ความช่วยเหลือพิเศษ เดือนละ 200 บาท 6 เดือน จะดำเนินการช่วงเดือนกรกฎาคม- ธันวาคม และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นการสนับสนุน E-Voucher บัตรกำนัลดิจิทัล วงเงินสูงสุดจำนวน 7,000 บาท จะดำเนินการช่วงเดือน สิงหาคมคม- ธันวาคม
ด้าน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีน-19 ในขณะนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับการฉีด เพราะว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะลดอาการรุนแรง ลดการเสียชีวิตและทำให้มีการติดเชื้อได้อยากขึ้นสำหรับประชาชนทั่วไปจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน วันที่ 1 กรกฎาคม อยากเชิญชวนให้ประชาชนทุกท่านได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อยให้ครบ 70 เปอร์เซนต์ จะทำให้คนในชุมชนมีภูมิต้านทานหมู่ ทำให้เชื้อที่หลงเหลือยู่อ่อนแอลง แต่อย่างไรก็ตามในภาวะที่เรายังไม่ได้ฉีดวัคซีนครบ 70 เปอร์เซนต์ ประชาชนทุกคนควรต้องปฏิบัติตาม DMHTT อย่างเคร่งคัด
ร่วมแสดงความคิดเห็น