กรมอนามัย ห่วงกลุ่มเปราะบางเข้าไม่ถึงบริการช่วงโควิด-19 หนุนผู้นำชุมชนทำฐานข้อมูล ติดตามช่วยเหลือ

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข หนุนผู้นำชุมชนดูแลสุขภาพประชาชนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ตั้งแต่กลุ่มแม่และเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มชายขอบ โดยจัดทำฐานข้อมูลของกลุ่มดังกล่าวเพื่อใช้ในการติดตามช่วยเหลือ พร้อมเน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ​

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการป้องกันในกลุ่มเปราะบางทั้งกลุ่มแม่และเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มชายขอบ ที่การเข้าถึงบริการด้านต่าง ๆ ทำได้ยากในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ผู้นำชุมชนจึงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือกลุ่มดังกล่าวที่อาศัยในชุมชนที่มีพื้นที่ค่อนข้างหนาแน่น ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยขอให้จัดจุดคัดกรอง สนับสนุนเจลแอลกอฮอล์ สบู่ และเครื่องวัดอุณหภูมิให้กับผู้ที่ทำหน้าที่คัดกรอง หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีคนรวมกันจำนวนมาก จัดรถรับ-ส่งผู้ป่วย หรือการรับยาแทนกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และผู้ด้อยโอกาสอื่น ๆ และจัดทำฐานข้อมูลของกลุ่มดังกล่าวเพื่อใช้ในการติดตามช่วยเหลือ รวมทั้งให้คนในชุมชนยึดหลักมาตรการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร และหมั่นล้างมือ ด้วยสบู่และน้ำเป็นประจำ สวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน และสังเกตสุขภาพของตนเอง หากพบมีอาการไข้ ไอ จาม เหนื่อยหอบ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือมีอาการที่พบเพิ่มคือ ตาแดง มีผื่นแดงตามตัว น้ำมูก น้ำตาไหล ให้ไปพบแพทย์ทันที​

“ทั้งนี้ เนื่องจากที่พักอาศัยในชุมชนส่วนใหญ่มีพื้นที่จำกัดและอยู่ร่วมกันหลายคน จึงต้องเน้นย้ำสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน และหมั่นทำความสะอาดที่พักโดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสร่วม เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ ห้องส้วม ของใช้ในบ้าน ด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ซักและทำความสะอาดเครื่องนอนสม่ำเสมอ ดูแลให้มีการระบายอากาศภายในบ้าน เปิดประตู หน้าต่างให้ได้รับแสงแดดธรรมชาติส่องทั่วถึง ภายในบ้านอย่างน้อยวันละครั้ง และให้มีการคัดแยกขยะ โดยทิ้งในภาชนะที่มีฝาปิดหรือถุงขยะที่สามารถมัดปากถุงได้มิดชิด แล้วนำไปทิ้งบริเวณจุดรวบรวมที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดไว้ให้เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป” นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าว

​อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับร้านค้า ตลาด ร้านอาหาร และแผงลอยขายอาหารในชุมชน ต้องกำกับให้มีการดูแลความสะอาดของสถานที่ อุปกรณ์ และสุขนิสัยผู้สัมผัสอาหาร ให้เป็นไปตามหลักสุขาภิบาลอาหาร และในกรณีที่ชุมชนพบมีผู้ป่วยยืนยันสัมผัสเชื้อโควิด-19 หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่งเป็นจุดแพร่เชื้อ เจ้าของสถานที่ต้องหยุดให้บริการ 3 วัน และทำความสะอาดฆ่าเชื้อทันทีภายใน 24 ชั่วโมง ภายใต้การกำกับดูแลของพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

ร่วมแสดงความคิดเห็น