เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น.ที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3 บ้านป่าตอง ตำบลศิราเพชร อำเภอปัว จังหวัดน่าน พันเอก รฐนนท รัตนโสภณ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ร่วมกับ นางสุภาสินี งามธุระ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน ได้จัดกิจกรรม รับบริจาคโลหิต ตามโครงการกองทัพไทย “ร่วมใจบริจาคโลหิตแก้วิกฤต COVID-19” ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนเป็นโลหิตสำรองให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย พร้อมกันนี้ ได้มอบน้ำดื่มสะอาดจำนวน 35,00 แพ็ค เพื่อสนับสนุนให้เหล่ากาชาดน่าน และโรงพยาบาลต่าง นำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆด้วย
โดยมีหน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลน่าน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว หน่วยงานแพทย์ทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศิราเพชร เปิดรับบริจาคโลหิต เพื่อให้มีเลือดสำรองเพียงพอในธนาคารเลือดใช้ในกรณี อุบัติเหตุ อุบัติเหตุหมู่ ผ่าตัดคนไข้ในโรงพยาบาล เป็นการทำบุญช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ความต้องการใช้เลือดของโรงพยาบาล ต้องการเลือดทุกกรุ๊ป
สืบเนื่องจากสถานการณ์ โรคไวรัสโคโรนา โรควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เข้ามาบริจาคโลหิตที่โรงพยาบาลลดลง ส่วนหนึ่งอาจเป็นความกลัวที่จะติดเชื้อในโรงพยาบาล อีกประการหนึ่ง คือการออกหน่วยรับบริจาคต่างอำเภอต่างๆ ลดลง เนื่องจากลดการรวมคนหมู่มาก แม้จะลดการบริการส่วนที่ไม่จำเป็นลงเยอะแล้ว แต่ว่าการบริการในแง่ฉุกเฉินต้องทำอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้ขาดเลือดในการผ่าตัด ร่วมกันบริจาคโลหิตให้โรงพยาบาลน่าน
ส่วนผู้บริจาคที่มีความกังวลว่าจะมาติดเชื้อในโรงพยาบาลนั้น ไม่ต้องกลัวเนื่องจากเรามีมาตรการอย่างรัดกุม ขอให้นัดหมายเข้ามาจะดีมาก เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล บริจาคได้ที่สาขาบริการโลหิตแห่งชาติ เหล่ากาชาดจังหวัดน่าน ชั้น 3 อาคารสิริเวชรักษ์ โรงพยาบาลน่าน บริจาคได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 16.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือติดต่อทาง LINE official @nanhospital โรงพยาบาลน่าน
ซึ่งทางทางเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน จะรวบรวมนำไปเก็บไว้ที่คลังเลือดของโรงพยาบาลน่าน เพื่อเตรียมความพร้อม รับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และเหตุอันจะเกิดกับสถานการณ์ อาจมีอุบัติเหตุ หรือมีการผ่าตัดใหญ่ฉุกเฉินเนื่องจากงานธนาคารเลือดขาดแคลนโลหิตไม่เพียงพอกับการให้บริการผู้ป่วย
สำหรับโลหิตที่ได้ครั้งโดยมี กำลังพลทหาร จากหน่วยพัฒนาการเคลื่อน 31 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 กำลังพลจิตอาสา ข้าราชการและองค์กรส่วนท้องถิ่น และประชาชนโดยทั่วไป เดินทางมาบริจาคโลหิต นี้ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 24,900 ชีชี. ทั้งนี้ เพื่อจะได้เก็บรักษาไว้สำหรับผู้บาดเจ็บและเจ็บป่วย ได้มีหมู่โลหิตสำรองไว้ใช้อย่างเพียงพอ และนำไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุหรือที่มีความต้องการต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น