เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2564 ที่ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์สุริยพงณช์ สุริยะพงฑากุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน ) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน และ นายแพทย์โภคิน ศักรินทร์กุล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลลำพูน แถลงข่าวสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ของจังหวัดลำพูน
พบรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เพิ่มเติมจำนวน 1 ราย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน – 13 พฤษภาคม 2564 สะสม 294 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 34 ราย รักษาหายแล้ว 256 ราย เสียชีวิตสะสม 4 ราย
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า สำหรับวันนี้ประชาชนคงจะได้รับทราบและได้เห็นว่าในพื้นที่ชุมชนหรือหมู่บ้านของท่าน จะมีเจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. เจ้าพนักงานควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจให้แก่พี่น้องประชาชนทุกท่านว่าสิ่งที่เราต้องร่วมกันฉีดวัคซีนในช่วงเวลานี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อ ตัวเราเองแต่เพื่อคนในครอบครัวและคนในสังคม หากเราฉีดวัคซีนให้ได้ ร้อยละ 70 หรือ 70 % ของประชากรทั้งหมดของจังหวัดลำพูน เราก็จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และเมื่อเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เชื้อไวรัสโควิด-19 จะอ่อนแรงลงและก็จะหมดสิ้นไปในที่สุด เพราะฉะนั้นในช่วงเวลานี้ ชุดปฏิบัติการของหมู่บ้านและตำบล ได้ลงพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบและดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยจะเข้าถึงครัวเรือน เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจและช่วยอำนวยความสะดวกช่องทางในการเข้าถึงการบริการรับจองวัคซีนและการเข้าถึงวัคซีนให้ได้ง่านที่สุดของประชาชน
ด้าน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวว่า สำหรับเดือนนี้เป็นเดือนแห่งการฉีดและการรณรงค์การฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 หลายคนกังวลเกี่ยวกับเรื่องของอาการแพ้ในการฉีดวัคซีน อาการแพ้วัคซีนมีแต่ของบ้านเราไม่รุนแรงเท่าต่างประเทศ สำหรับอาการในการแพ้วัคซีนมักจะมีกาการ เช่น อาการผื่นแพ้ รอยแดงบนใบหน้า หรือผืนคัน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย ปวดบริเวณที่ฉีด คลื่นไส้ เป็นต้น เกิดได้น้อยมาก ไม่ถึง 2 % หากประชาชนอยากจะถอดหน้ากากออก อยากให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทำมาค้าขายได้ดีขึ้นและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอย่างที่เคย ทุกคนควรให้ความสนใจและช่วยกันในการเข้ามาฉีดวัคซีนให้เกิดขึ้นในจังหวัดลำพูนและในประเทศให้เกิน 60 % ขึ้นไปเราก็จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ประเทศก็จะกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ
ด้าน นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า สะสม 294 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 34 ราย พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลำพูน จำนวน 24 ราย โรงพยาบาลบ้านโฮ่ง จำนวน 1 ราย ,โรงพยาบาลลี้จำนวน 2 รายและโรงพยาบาลสนามตำบลเวียงยองแห่งที่ 1 จำนวน 7 ราย สำหรับโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 วันนี้มีรอกลับบ้าน จำนวน 4 ราย ส่วนอีก 4 ราย จะย้ายจากโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 1 ไปพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลำพูน
เพราะฉะนั้น โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 คือโรงพยาบาลลำพูน สาขาเวียงยอง ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน จะทำการปิดชั่วคราวเริ่มตั้งแต่เย็นวันนี้(13 พ.ค.) และจะรอว่ามีผู้ป่วยเข้าใหม่อีกหรือไม่ไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะปิดถาวร ในวันที่ 26 พฤษภาคม ในส่วนของโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนนั้น ได้ปิดชั่วคราวไปแล้วเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม และคาดว่าจะปิดถาวรในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า คือวันที่ 19 พฤษภาคม ทั้งนี้ต้องขอบขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดลำพูนทุกคนและผู้มีจิตศรัทธา ที่ร่วมกันอนุเคราะห์และอำนวยความสะดวกให้กับโรงพยาบาลสนามทั้ง 2 แห่ง ที่ได้สามารถทำตามภารกิจได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
สำหรับข้อมูลในการรับบริการฉีดวัคซีนฯ ปัจจุบันได้มีการเปิดจองวัคซีนในสถานพยาบาลของรัฐทุกแห่ง โดยมีศักยภาพในการฉีกวัคซีนประมาณ 3,500 โดสต่อวัน และสามารถเพิ่มศักยภาพในการฉีดวัคซีนได้มากขึ้นประมาณ 1,200-1,500 โดส รวมแล้วทั้งจังหวัดลำพูนสามารถฉีดวัคซีนได้ประมาณ 5,000- 5,500 โดสต่อวัน เมื่อวานนี้(12 พ.ค.) คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ มีมติฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบ Walk In คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเปลี่ยนใจมาฉีดวัคซีนได้แบบทันทีทันใด ไม่ว่าจะได้รับการจองวัคซีนหรือยังไม่ได้รับการจองวัคซีน สามารถเดินทางเข้ามาฉีดได้ที่หน่วยบริการก็สามารถฉีดให้ได้
ในส่วนของผู้ที่เข้าเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดระหว่างการรักษา โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ให้ดำเนินการลงทะเบียน จองคิว เพื่อให้ได้รับโควตาวัคซีนที่จะถูกกระจายมายัง จงหวัดลำพูน ได้ตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ สำหรับผู้ที่จองรับวัคซีนแล้ว ให้ดำเนินการจองช่วงเวลาที่จะเข้ารับการฉีดด้วย นอกเหนือจากช่องทาง “หมอพร้อม” 1.ประชาชนกลุ่มที่เข้าเกณฑ์สามารถจองคิวได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) 2.หากมีโอกาสได้เดินทางไปโรงพยาบาลลำพูน สามารถไปติดต่อได้ที่ ห้องหมายเลข 38 เพื่อติดต่อจองคิว และ3.สามารถเข้าไปสอบถามการจองคิวได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-569 100 ต่อ 72500 ,085-592 6311 ,095-198 8033 ,095-560 5655 และ096-158 0988
ร่วมแสดงความคิดเห็น