ทำไม “แอลกอฮอล์” จึงป้องกัน COVID-19 ได้

คุณรู้ไหม ?

การล้างมือ คือ วิธีการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 หรือ โควิด-19 ที่ดีมากอันหนึ่ง แต่เราก็ไม่สามารถทำการล้างมือได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนอยู่ในที่สาธารณะ  จึงจำเป็นต้องใช้ตัวช่วย คือ “แอลกอ ฮอล์” ทั้งในรูปแบบของ เจล และสเปรย์

แนะ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” สร้างเกราะป้องไวรัสอู่ฮั่น สยามรัฐ

แอลกอฮอล์ที่ใช้งานในโรงพยาบาล มี 2 ชนิด คือ

  • เอทิลแอลกอฮอล์  (ethyl alcohol หรือ ethanol) และ
  • ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl alcohol)

แอลกอฮอล์ทั้ง 2 ชนิดเป็นของเหลว ไม่มีสี ระเหยได้ที่อุณหภูมิห้อง ไม่มีฤทธิ์ตกค้าง แอลกอฮอล์จะมีประสิทธิภาพในการทำลายได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส เมื่อมีความเข้มข้นประมาณ 70-90% โดยปริมาตร โดยเอทิลแอลกอฮอล์ จะทำลายเชื้อไวรัสได้ดีกว่าไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์

คำถาม ทำไมถึงต้องใช้ แอลกอฮอล์  70% ขึ้นไป ?

จากการทดลองในต่างประเทศ พบว่า ต้องใช้แอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นเกิน 70% จึงจะสามารถทำลายไวรัสที่มีเปลือกหุ้ม เช่น SARS-CoV-2 หรือ ไวรัส COVID-19 ได้ 

โดยแอลกอฮอล์เมื่อละลายกับน้ำ จะสามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้ดีขึ้น จึงทำให้โปรตีนเสียสภาพ และยังทำให้เยื่อหุ้มเซลล์แตกและเข้าไปรบกวนระบบ metabolism ของเชื้อโรค ทำให้เชื้อโรคตายในที่สุด

ส่วนแอลกอฮอล์ที่มีเข้มข้นมากกว่า 90% จะทำให้โปรตีนด้านนอกของเยื่อหุ้มเซลล์เสียสภาพได้อย่างเดียว ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์สูงเกินไป ก็จะระเหยเร็วเกินไป ในขณะที่เจือจางก็จะออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้น้อยลง

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา มีคำตอบว่า หากมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยกว่า 70% โดยปริมาตร จะฆ่าเชื้อโรคไม่ได้ พร้อมยังบอกอีกว่า ผลิตภัณฑ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ผ่านการจดแจ้งจาก อยแล้ว ประชาชนจะมั่นใจได้ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% โดยปริมาตร ขณะที่ข้อมูลของ องค์การสุรา กรมสรรพสามิต อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า  แอลกอฮอล์สามารถทำลายได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัสบางชนิด และเมื่อละลายกับน้ำจะสามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้ดีขึ้น จึงทำให้โปรตีนเสียสภาพและทำให้เยื่อหุ้มเซลล์แตก และเข้าไปรบกวนระบบ metabolism ได้ด้วย แต่ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ บริสุทธิ์จะทำให้โปรตีนด้านนอกของเยื่อหุ้มเซลล์เสียสภาพได้ อย่างเดียวเท่านั้น ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ปกติที่นิยมใช้กันจะอยู่ในช่วง 60−90% (ถ้าความเข้มข้นมากกว่านี้ จะไม่สามารถเข้าเซลล์ได้) 

อันตรายจากการใช้ “เจลแอลกอฮอล์” ล้างมือบ่อยเกินไป

ทำไมแอลกอฮอล์ 70% ถึงฆ่าเชื้อได้ดีกว่า 91%

แอลกอฮอล์ที่เป็นส่วนประกอบผลิตภัณฑ์นั้นๆ ต้องมีปริมาตรรวมกันตั้งแต่ 70% ขึ้นไป ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์น้อยกว่า 70% โดยปริมาตรนั้น ห้ามผลิต น้ำเข้า และจำหน่าย

และโดยพื้นฐานแล้ว แอลกอฮอล์ 90% หรือ 91% เข้มข้นมากเกินไป บางกรณีสารละลายที่เข้มข้นเกินไป จะทำลายที่ภายนอกของเซลล์ หรือเยื่อหุ้มเซลล์ก่อน ถึงจะเข้าไปข้างในและเกิดการฆ่าเชื้อจริง แต่หากเป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% นับเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม เพราะน้ำและแอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายเซลล์ทั้งหมด โดยปริมาณน้ำที่มีอยู่จะสามารถผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ เพื่อเข้าไปฆ่าเชื้อได้

ซึ่ง ดร.เอลิซาเบธ สก็อตต์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ประสิทธิภาพของการกำจัดเชื้อ ขึ้นอยู่กับการต่อต้านและโครงสร้างของไวรัสแต่ละชนิด อย่างเช่น ไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดทั่วไป เอชไอวี และโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ 60% หรือมากกว่านั้น ขณะที่ไวรัสชิดอื่นๆ เช่น Norovirus ไม่ได้มีการกำหนดไว้ แต่อย่างไรก็ตาม 

สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ คือ การปฏิบัติตัวในเรื่องสุขอนามัยที่ถูกต้อง เช่น การล้างมือ ในแต่ละครั้งควรล้างมือนาน 20 วินาที ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณที่มือของเราไปสัมผัสบ่อยๆ และการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

 

 

ข้อมูลอ้างอิงจาก  bangkokbiznewsapartmenttherapy ,สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น