เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 พ.อ.สุจินต์ ทรัพย์สิน ผบ.ฉก.ร.7 เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีการปะทะในพม่าระหว่างทหารพม่ากับ กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ทำให้มีกระสุน ค.ตกเข้าในไทยด้านทิศเหนือของบ้านท่าตาฝั่ง จำนวน 3 นัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าไปเคลียร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งทาง ฉก.ร.7 ได้แจ้งไปยังศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจ.แม่ฮ่องสอน เพื่อรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ทำหนังสือประท้วงไปยัง คณะกรรมการส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ TBC เนื่องจากพื้นที่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง มีฐานทหารเมียนมา ตั้งอยู่ และยังมีกองกำลังทหารกะเหรี่ยง KNU ด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงยังต้องพิสูจน์ทราบว่าเป็นฝ่ายใด และทางการไทยต้องดูแลความเรียบร้อยพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่ จึงได้ให้ประชาชนบ้านท่าตาฝั่ง อพยพไปในที่ปลอดภัยแล้ว
แหล่งข่าวราษฎรบ้านท่าตาฝั่ง ระบุว่า ชาวบ้านท่าตาฝั่ง ทุกคนเห็นทหารพม่าฐานด๊ากวิน ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง เป็นฝ่ายยิง ค. เข้ามาในเขตไทยอย่างชัดเจน นอกจากการยิง ค.แล้ว ยังตามด้วยการยิงปืนกลหนัก เข้ามาในหมู่บ้านท่าตาฝั่ง และกระสุนได้ทะลุฝาบ้านพักของโรงเรียนบ้านท่าตาฝั่ง อีกด้วย ลักษณะการกระทำของทหารพม่า เป็นไปตามที่พม่าได้ข่มขู่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยว่า หากให้การช่วยเหลือกลุ่มกะเหรี่ยงเคเอ็นยู จะทำการยิงโจมตีบ้านท่าตาฝั่งทันที และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริงตามที่พม่าขู่ไว้
ด้านความเคลื่อนไหวพื้นที่ชุมชนบ้านท่าตาฝั่ง ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลืออพยพชาวบ้านไปในแหล่งที่ปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยชาวบ้านอพยพไปยังสวน นา กางเต้นท์สร้างที่พักชั่วคราวในป่า บางคนหลบเข้ามาข้างในหมู่บ้าน บางคนย้ายพึ่งพิงอาศัยญาติที่อยู่ใน อ.แม่สะเรียง ในขณะเดียวกันยังมีบางคนที่ยังนอนเฝ้าบ้าน เพราะเป็นห่วงบ้านเรือนและทรัพย์สิน เช่น สัตว์เลี้ยง รถ เรือ เป็นต้น ชาวบ้านที่อพยพส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ บางคนมีโรคประจำตัวหวาดผวากับเสียงปืน จนต้องหาที่หลบไกลจากพื้นที่ชุมชนชายแดน
ที่ผ่านมาในพื้นที่แจ้งเตือนให้อพยพไปยังที่ปลอดภัย โดยสถานการณ์ตอนนี้ไม่น่าไว้วางใจ แหล่งข่าวในพม่าให้ข้อมูลมาว่า อาจมีความเป็นไปได้สูงที่ทางทหารพม่าจะตั้งปืนใหญ่จากฐาน “เหล่อโต”พิกัดเยื้องกับฐานพม่าบ้านท่าตาฝั่ง เพราะมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการโจมตีทางอากาศยาน และหากเป็นไปตามนั้นจริง ชุมชนต้องอพยพทั้งหมด เพราะตำแหน่งตั้งปืนใหญ่หันมายังชุมชนอาจโดนลูกหลงได้
ขณะที่เจ้าหน้าตรึงกำลังคุมสถานการณ์ และอ้างถึงความมั่นคงไม่ให้คนนอกพื้นที่เข้าไปยังชุมชน ยกเว้นหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ด้านข้อมูลข่าวสารถูกสั่งห้ามไม่ให้เผยแพร่ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่ให้เกิดการประโคมข่าว สามารถรับรู้เฉพาะบางหน่วยงานเท่านั้น ซึ่งทางชาวบ้านมองว่า เป็นการละเมิดสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และการนำเสนอข่าวออกไปนอกชุมชน
เป็นเวลา กว่า 25 ปีผ่านมา ที่พม่าตั้งฐานชายแดน สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องกะเหรี่ยงทั้งสองฝั่ง ตั้งด่านขูดรีด ยิงเรือชาวบ้านเป็นว่าเล่น ยิงปืนใหญ่ใส่ฝั่งไทย โดยไม่เกรงกลัวอะไรใดๆทั้งสิ้น ชอบท้าทายแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างโจ่งแจ้งโดยไม่ปกปิดแม้แต่นิดเดียว
ทศพล / แม่ฮ่องสอน
ร่วมแสดงความคิดเห็น