จากกรณี ที่มีการะแสข่าวออกมาว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวนมากในพื้นที่ เขตเศรษฐกิจคิงส์โรมัน ที่เกาะดอนซาว แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ทำให้มีชาว สปป.ลาว พยายามหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าว รวมไปถึงคนไทยที่อยู่ในโครงการคิงส์โรมันประมาณ 500 คน ทำงานอยู่ด้วย ทำให้เกิดความแตกตื่นให้กับคนในพื้นที่ใกล้เคียงว่าจะมีการทะลักของคนที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าว หลบหนีเข้าเมืองมาตามช่องทางต่างๆ หรือไม่ เกรงว่าจะนำเอาเชื้อไวรัส โควิด-19 เข้ามาระบาดในประเทศไทย
สำหรับข่าวที่ออกมาดังกล่าวทาง นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การระบาดของในพื้นที่คิงส์โรมันไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่ได้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อมาตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว จึงเป็นตัวเลขที่เป็นยอดสะสม ซึ่งทางจังหวัดเชียงรายได้ประสานความร่วมมือกับทางการลาว และทางคิงส์โรมันแล้ว โดยทราบว่ามีคนไทยเข้าไปทำงานในพื้นที่โครงการ ประมาณ 500 คน แต่มีการตรวจพบคนไทยติดเชื้อเพียง 13 คน รักษาหายแล้ว 6 คนเหลือเพียง 7 คนที่กำลังรักษาอยู่ ซึ่งทางจังหวัดจึงได้ทำหนังสือประสานความร่วมมือไปยัง สปป.ลาว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนงานไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ โดยนำกลับเข้ามาในช่องทางที่ถูกต้องบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคและกักตัว 14 วันเพื่อเตรียมความพร้อนด้านสาธารณสุขและป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ถูกต้องซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดได้
ทางด้าน น.อ.จิรัฐ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตเชียงราย นำโดย น.ท.ภาณุฑัต ทิพย์วงษ์ทอง หน.สถานีเรือเชียงแสน นรข.เขตเชียงราย ได้เพิ่มมาตรการในการป้องกันชายแดน นำกำลังลาดตระเวณทางบก และทางเรือในแม่นำโขง เพื่อป้องกันแรงงานไทยหรือแรงงานต่างด้าว และชาวต่างชาติ ที่พยายามลักลอบเข้ามาในพื้นที่ ตั้งแต่ชายแดน สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ถึง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เพื่อป้องกันการนำเชื้อไวรัสโควิด 19 เข้ามาระบาดในพื้นที่ และสิ่งผิดกฎหมาย
ร่วมแสดงความคิดเห็น