เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 64 เวลา 21.22 น. นายสิธิชัย จินดาหลวง ผวจ.แม่ฮ่องสอน / ผอ.ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา เปิดเผยว่า ได้เกิดการปะทะกันระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย KNLA บริเวณฐานปฏิบัติการด๊ากวิน สหภาพเมียนมา ฝั่งตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยกองกำลังชนกลุ่มน้อย KNLA ได้ยิงเครื่องยิงลูกระเบิด (ไม่ทราบชนิด) จำนวน 1 นัด ไปยังฐานปฏิบัติการด๊ากวิน และทหารเมียนมาได้ใช้ปืนเล็กยาว และ ปืนกลในการยิงป้องกันฐาน และได้ยิงเครื่องยิงลูกระเบิด (ไม่ทราบชนิด) จำนวน 1 นัด ไปยังเป้าหมายลึกเข้าไปในฝั่งเมียนมาประมาณ 1 กม. (ไม่ทราบการสูญเสีย) ปัจจุบันยังคงไม่มีการปฏิบัติการทางอากาศ ในฝั่งประเทศเมียนมา เป็นระยะเวลา 24 วัน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน คือจากการสู้รบในพม่าทำให้มีราษฎรกะเหรี่ยงหนีเข้ามาอาศัยหลบภัยในเขตประเทศไทย ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จำนวน 4 แห่ง มีจำนวนคนทั้งสิ้น 1,024 คน
ส่วน ราษฎรไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ บ.ท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง ที่เดินทางมายังตำบลรวบรวมพลเรือนเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตามแผนการอพยพพลเรือนในพื้นที่ ปัจจุบันมีราษฎรอยู่ในพื้นที่ตำบลรวบรวมพลเรือน 1 แห่ง ที่ห้วยกองคา จำนวน 176 คน ทางด้านทหารพรานกรม ทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ทำการปักธงชาติไทย เพื่อแสดงอาณาเขตให้กับฝ่ายตรงข้าม หลังถูกกระสุน ค. ไม่ทราบฝ่ายตกลงในพื้นที่บ้านท่าตาฝั่ง โดยทางการไทย ไม่ยินยอมแถลงข่าวเรื่องกระสุน ค. ที่ตกในเขตไทยว่า เป็นชนิดใด หากเป็นทหารพม่า ลักษณะครีบหางจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือน กระสุน ค. ที่ทหารไทย และเคเอ็นยู ใช้ จะเป็นกระสุนที่ผลิตจากอเมริกา โดยส่วนครีบหางของกระสุนค.จะสามารถบอกได้ว่า ใครเป็นผู้ใช้และยิงตกเข้ามาในฝั่งไทย
ร่วมแสดงความคิดเห็น