ผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตรายที่ 2 ของเมืองน่าน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และยิ่งต้องกระตุ้นให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองมากขึ้น มันเป็นโรคติดต่อที่อันตรายรุนแรงถึงชีวิต เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (ผู้ป่วยรายที่ 24 ) เนื่องจากมีโรคประจำตัวรุนแรง ผู้ป่วยสะสม 122 ราย
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 พญ.อัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการรพ.น่าน กล่าวถึงการที่มีผู้เสียชีวิต จากโควิด-19 รายที่ 2 ของจังหวัดน่าน น่านมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.64) เป็นเพศหญิงวัย 64 ปี เป็นชาว อ.ภูเพียง แอดมิดที่ รพ.น่าน 14 เมษา พร้อมกับญาติรายทึ่ 25 ไข้รายนี้มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว พอดีมาติดโควิด เริ่มมีอาการหอบ จากฟิล์มเอ็กซเรย์ มีภาวะปอดบวม หลังจากที่ได้ยาต้านไวรัส ได้รับออกซิเจนไป อาการก็ไม่ดีขึ้น อาการก็ทรุดลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตไป ซึ่งทีมแพทย์ก็ดูแลรักษาอย่างเต็มความสามารถมา 41 วัน พยายามสุดความสามารถ แต่ถ้ามีโรคประจำตัว ก็จะทำให้ยากแก่การรักษา
อยากจะเตือนว่า โควิดไม่ใช่โรคไกลตัวอีกต่อไป เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากๆ อยากฝาก 2 ประเด็น คือเรื่องลงทะเบียนฉีดวัคซีน อันนี้สำคัญมาก รัฐบาลประกาศให้ประชาชนกลุ่มแรก คือกลุ่มอายุมากกว่า 70 และ ผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค ให้รีบลงทะเบียน อย่าลังเล เพื่อจะได้ป้องกันโรคก่อนที่จะติดโรค ส่วนที่ยังไม่ฉีด มาตรการที่สำคัญ ก็คือ มาตรการนิวนอร์มอล DMHTTA การเว้นระยะห่าง การใส่แมสตลอดเวลา การล้างมือบ่อยๆ สำคัญมากๆ สำหรับประชาชน ป้องกันตัวเองไม่ให้ติดโรค ถึงเราจะไม่มีโรคประจำตัว ก็เสี่ยงที่จะปอดบวมอยู่ดี อยากให้ติดเป็นดีที่สุด
เรื่องการกลัววัคซีน ความเห็นของหมอ วัคซีนเป็นวัคซีนใหม่ มีผลข้างเคียงแน่นอน แต่ถ้าเทียบการไม่ได้ฉีดกับผลข้างเคียงต่างกันเยอะ ประโยชน์สำหรับการไม่ให้ติดเชื้อมีมาก มีความเสี่ยงอยู่แต่ถ้าเทียบกับประโยชน์มีผลดีมากกว่าผลเสีย อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ฉีด ถึงแม้จะป้องกันได้ไม่ 100 % แต่ก็ยังป้องกันการแพร่เชื้อ การได้รับเชื้อแล้วอาการไม่รุนแรงถึงกับต้องช่วยหายใจ เพราะคนฉีดวัคซีน ก็ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ดี
ส่วนเรื่องผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่ก็มักจะหายเองได้ ส่วนการเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีน ก็จะพบว่าเสียชีวิตจากโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่จากตัววัคซีน ส่วนที่กลัวกันว่า รพ.มีมาตรการอะไรไหม ในการช่วยเหลือผู้ฉีดวัคซีน หากเกิดผลข้างเคียง จะเห็นว่าการฉีดเรามีมาตรการรัดกุม จะฉีดในที่ๆ มีความพร้อมสำหรับการลดเรื่องอาการไม่พึงประสงค์ อย่าง รพ.น่าน เราเตรียมพร้อมทุกเรื่อง มีการสังเกตอาการ 30 นาที เรามีความพร้อม และเครื่องมือที่จะช่วยเหลือทันทีหากเกิดเหตุ ห้องฉุกเฉิน อุปกรณ์ช่วยชีวิตฉุกเฉิน พร้อมเต็มที่
ในด้านการจัดการร่างของผู้เสียชีวิต พญ.วรางค์รัตน์ เอกอนันกุล ผู้รับผิดชอบอาคารสุขาวดี รพ.น่าน แจ้งว่า ก่อนอื่นขอแแสดงความเสียใจ กับญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต แนวทางการดูแลผู้เสียชีวิต รพ.น่าน มีแนวทางจัดการตามมาตรฐานให้ความมั่นใจได้ว่า การเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตจะไม่มีการปนเปื้อน หรือติดเชื้อสำหรับคนที่มาดำเนินการ เมื่อมีผู้เสียชีวิต ไวรัสจะไม่กระจายไปไหนแล้ว แต่ก็ต้องให้ความระมัดระวัง ส่วนที่ถามว่าญาติสามารถจัดงานศพได้ไหม ก็ต้องใช้มาตรการการรักษาระยะห่าง ในผู้ร่วมพิธี
รพ.น่าน แบ่งเป็น 2 กรณี หาก รพ.ดูแลให้ สามารถจัดการให้ได้ โดยจัดการร่างผู้เสียชีวิตตามมาตรฐาน และจัดทำพิธีทางศาสนาให้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จำกัดจำนวนญาติไม่เกิน 5 ท่าน เข้าร่วมได้ มีโลงศพให้ นิมนต์พระจาก วัดอรัญญาวาส มาดำเนินพิธีการทางศาสนา ให้ ทม.น่าน ให้เราใช้เมรุที่ลอมเชียงของจัดการศพให้ ซึ่งในสถานการณ์โควิด เราจะจัดการศพให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องเป็นไปตามประสงค์ของญาติด้วย
แต่ถ้าประสงค์เอาไปจัดการเอง หลังจากที่เราจัดการร่างผู้เสียชีวิตแล้ว ใส่ในถุงบรรจุศพ ห้ามเปิด ห้ามแกะ ห้ามรื้อดูศพ เพราะหากเปิด ก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากสารคัดหลั่ง อาจฟุ้งกระจายได้ เกิดเป็นความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ จะแนะนำญาติก่อนที่จะเอาศพออกจาก รพ. จะมีเอกสารมีคำแนะนำให้ จะแจ้งให้พื้นที่จะมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ให้พื้นที่เข้าไปช่วย
เรื่องดังกล่าว ผอ.รพ.น่าน พญ.อัจฉรา แจ้งว่า เราอยากให้เลือกวิธีแรกมากกว่า เพราะเราจะดูแลให้จนครบวงจร ทั้งหีบบรรจุศพ ทั้งพระ ทั้งเมรุเผา ซึ่งอยากให้เลือกให้เราดูแลให้ เพราะหากเอาไปจัดการเอง อาจยากที่จะเข้าไปควบคุมดูแล เพราะกำลังคนของเราก็มีงานทำหลายๆ อย่าง กรณีรายแรกที่เสียชีวิต เราคุยกับญาติ ญาติก็ยินยอมให้เราจัดการให้ ญาติหลายคนต้องกักตัวก็มาไม่ได้อยู่แล้ว ช่วงบ่ายเราก็จะจัดพิธีการทางศาสนา และดำเนินการให้จนแล้วเสร็จ โดยทีมผู้บริหารของ รพ.น่านได้มีจุดยืนในความตระหนักในประเด็นที่ละเอียดอ่อนต่อผู้วายชนม์และญาติพี่น้อง โดยได้ประสานกับญาติได้คำตอบอย่างชัดเจนว่า ทางญาติไม่สะดวกในการที่จะถูกนำเสนอข่าวทั้งที่ใน รพ.น่าน และฌาปนสถาน
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
ร่วมแสดงความคิดเห็น