ตรวจเชิงรุกหลังคลัสเตอร์โรงานระบาด ต่างด้าวติดโควิด 37 คน กำหนดโรงพยาบาลแม่สายเป็นที่รักษา 37 ต่างด้าวติดโควิด ส่วนผู้ป่วยโรคทั่วไปให้ย้ายไปใช้บริการที่โรงพยาบาลแม่จันและเชียงแสนแทน ขณะที่สาธารณสุขเร่งตรวจเชิงรุกหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงในโรงงานกระเทียม และในโกดังสินค้าบ้านเหมืองแดง
หลังจากที่ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานโควิด-19 จังหวัดฯ พร้อมด้วยสาธารณสุขจังหวัดฯและคณะ ได้ประชุมร่วมกับโรงพยาบาลแม่สาย สาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง รวมถึงฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร เพื่อหาทางควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังพบคลัสเตอร์ใหม่เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวในโกดังกระเทียม เขตบ้านเหมืองใต้ ม.1 ตำบลแม่สาย และกลุ่มแรงงานต่างด้าวในโกดังสินค้า เขตบ้านเหมืองแดง ม.2 ตำบลแม่สาย ทำให้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 37 คน โดยทั้งหมดเป็นชาวต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานในพื้นที่อำเภอแม่สาย
โดยที่ประชุมได้มีมติให้โรงพยาบาลแม่สาย นำผู้ติดเชื้อทั้ง 37 คน จากพื้นที่มารักษาในโรงพยาบาล ส่วนคนไข้ปกติที่เป็นโรคอื่นๆ ทั่วไป ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 ของโรงพยาบาลแม่สาย ให้ย้ายไปใช้บริการที่โรงพยาบาลแม่จัน และโรงพยาบาลเชียงแสน ซึ่งแรงงานต่างด้าว และกลุ่มเสี่ยงสูงให้กักตัวในโรงงานหรือที่พักของตนเอง
โดยในเช้าวันนี้ (27 พ.ค. 64) ได้มีการตรวจเชิงรุกในกลุ่มดังกล่าว และผู้ใกล้ชิด โดย นายอดิเรก ไลไธสง ปลัดอำเภอ หัวหน้างานปกครอง ที่ว่าการอำเภอแม่สาย เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 37 ราย สอบสวนโรคพบว่าติดเชื้อมาจากคนขับรถตู้ขนส่งสินค้าระหว่างแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ซึ่งตรวจพบว่าติดเชื้อไปก่อนหน้านี้ ซึ่งทางฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย จึงได้ปิดโรงงาน และล็อคดาวน์ชุมชนที่อยู่ของแรงงานในโรงงาน และโกดังต่างๆ ในพื้นที่บ้านเหมืองแดงไว้แล้ว โดยจะได้เร่งเข้าไปตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงให้เร็วที่สุด
ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย
ร่วมแสดงความคิดเห็น