ปภ.แนะเด็กจมน้ำ ภัยเงียบในเด็กที่ป้องกันได้

การจมน้ำเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของเด็กไทย โดยเฉพาะในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม–มิถุนายน เป็นช่วงที่มีสถิติเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูง เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันเด็กจมน้ำ ดังนี้

เด็ก ต้องเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดจากการจมน้ำ ให้ปฏิบัติ ดังนี้

• ฝึกทักษะการว่ายน้ำ โดยฝึกให้เด็กลอยตัวในน้ำหรือว่ายน้ำ หากพลัดตกน้ำจะได้สามารถช่วยเหลือตนเอง
  อย่างปลอดภัย
• สอนให้รู้ถึงอันตรายเมื่ออยู่ใกล้แหล่งน้ำ โดยอยู่ให้ห่างจากริมตลิ่ง ไม่วิ่งเล่นบริเวณสระน้ำ ไม่ลงไปเก็บของ
  ในแหล่งน้ำไม่ก้มตัวหรือชะโงกหน้าลงในภาชนะเก็บน้ำ
• ห้ามเด็กลงไปช่วยเหลือคนตกน้ำด้วยตนเอง เพราะจะทำให้จมน้ำเสียชีวิตได้

ผู้ปกครอง ต้องป้องกันอุบัติเหตุจมน้ำ ให้ปฏิบัติ ดังนี้

• ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง ควรมีผู้ดูแลตลอดเวลาที่เด็กเล่นน้ำหรือให้เด็กเล่นน้ำในสระว่ายน้ำที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล (Life guard)
• ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด โดยเด็กจะต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นตลอดเวลา หากพลัดตกน้ำจะได้เข้าช่วยเหลือเด็กทันที
• ไม่ประกอบกิจกรรมอื่นในขณะที่ดูแลเด็ก เพราะการละสายตาจากเด็กในช่วงเวลาสั้นๆ หากเด็กจมน้ำจะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ทัน
• สำรวจและปิดจุดเสี่ยงต่อการจมน้ำ โดยเทน้ำทิ้งหลังใช้งาน จัดให้มีฝาครอบปิดภาชนะ ล้อมรั้วรอบบ่อน้ำ
• ให้เด็กใช้อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยในขณะโดยสารเรือหรือเล่นน้ำ อาทิ เสื้อชูชีพ โฟม ห่วงยาง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน อุปกรณ์ช่วยพยุงตัวเด็กให้ลอยขึ้นรอการช่วยเหลือ
• สังเกตป้ายเตือนอันตราย พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ผู้ปกครองและสายตาขณะที่เด็กเล่นน้ำตามลำพัง โดยการหันไปหยิบของเพียง 10 วินาที สามารถทำให้เด็กจมน้ำได้ หากหยิบโทรศัพท์มือถือแชทเพียง 2 นาที ทำให้เด็กจมน้ำหมดสติได้ และการเดินเข้าห้องน้ำ 4-6 นาที เด็กที่จมน้ำ สมองอาจจะถูกทำลายถาวรหรือเสียชีวิตได้

เรียนรู้ 3 วิธีช่วยเหลือคนพลัดตกน้ำ ตะโกน โยน ยื่น

• ตะโกน ให้ผู้ใหญ่มาช่วยเหลือคนตกน้ำ
• โยน อุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ อาทิ แกลลอน ห่วงชูชีพ
• ยื่น อุปกรณ์ให้คนตกน้ำใช้ยึดเกาะพยุงรอการช่วยเหลือจบ

ทั้งนี้ การจมน้ำเป็นภัยใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดจากการจมน้ำ การฝึกทักษะ
การว่ายน้ำ การสอนให้เด็กรู้จักอันตราย จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการจมน้ำในเด็กได้