คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่
ที่ ๖๒ /๒๕๖๔
เรื่อง มาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant L- A
ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
เชียงใหม่ ที่ ๑๗/๒๕๖๔ เรื่อง ผ่อนคลายการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เข้า – ออก พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ลงวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ นั้น เนื่องจากขณะนี้พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในแคมป์ก่อสร้าง ใน
พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จึงเห็นสมควรกำหนด
มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในแคมปัก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา ๒๒ และมาตรา ๓๔ (๖) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘
ประกอบกับข้อ ๗ (๑) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑) ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๙ ของข้อกำหนดออก
ตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๐)
ลงวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ผู้ว่าราชการจังหวัดเซียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ
จังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเซียงใหม่ตามมติที่ประชุมครั้งที่
๘๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ จึงออกคำสั่ง ดังนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ๑๗/๒๕๖๔ เรื่อง ผ่อนคลาย
การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เข้า – ออก พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ข้อ อ ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว
Non -Immigrant L- A จากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เข้ามาทำงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ที่จะเดินมาจากพื้นที่อื่น เข้ามาทำงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ โดยถือปฏิบัติ ดังนี้
ข้อ ๓ กรณีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant L- A
๓.๑ แรงานต่างด้าวจะต้องเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย นายจ้างจะต้องมีชื่อตรง
กับที่แจ้งไว้กับนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวเท่านั้น และมิใช่
แรงงานต่างด้าวตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และมียนมา ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ ฉบับลงวันที่ ๓0 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
๓.๒ นายจ้างจะต้องยื่นขออนุญาตต่อสำนักงานสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่ ณ สถานที่ทำงาน
ของแรงงานต่างด้าวนั้นตั้งอยู่ ส่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๕ วันทำการ โดยต้องยื่นเอกสารประกอบการพิจารณา ดังนี้
๑) สำเนาหนังสือสัญญาจ้างงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงบัญชีรายละเอียด
ข้อมูลของแรงงานต่างด้าวที่จะทำการเคลื่อนย้าย
๒ สำเนาหนังสือเดินทางและหน้ารอยตราประทับการอนุญาตให้อยู่ใน
ราชอาณาจักร สำเนาใบอนุญาตทำงาน หรือสำเนาบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
๓) เอกสารหลักฐานระบุที่พักอาศัยที่ชัดเจนภายในจังหวัดเชียงใหม่
๓.๓ นายจ้างต้องยื่นผลการตรวจหาสารพันธุ์กรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยวิธี RT- PCR
ของลูกจ้างที่ตรวจ ภายใน ๗๒ ชั่วโมง ก่อนการเดินทางเข้าจังหวัดเชียงใหม่
๓.๔ เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ให้นายจ้างนำพาแรงงานต่างด้าวที่เดินทางเข้า
มาไปรายงานตัวต่อสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่ ณ สถานที่ทำงานของแรงงานต่างด้าวนั้นตั้งอยู่
ข้อ < กรณีแรงงานต่างด้าวประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant L- A ที่จะเดินทางออกไป
ทำงานในจังหวัดอื่นๆ นายจ้างต้องขออนุญาตต่อนายอำเภอหรือหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ โดยแสดง
จุดหมายปลายทางสถานที่ที่จะไปทำงานให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ ตามแบบที่กำหนดท้ายคำสั่งฉบับนี้
ข้อ ๕ กรณีแรงงานต่างด้าวประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant L- A ที่จะเดินทางไป-กลับ
ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดลำพูน เชียงราย แม่ฮ่องสอน ให้ขออนุญาตต่อศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ
โดยนายจ้างจัดทำทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่มีความจำเป็นต้องเดินทางลักษณะไป-กลับ เป็นกิจวัตร ระหว่าง
จังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดดังกล่าวข้างต้น และดำเนินการตามข้อ ๓.6 โดยอนุโลม และศูนย์ปฏิบัติการควบคุม
โรคอำเภอ ออกหนังสือหรือเอกสารรับรองให้แก่บุคคลดังกล่าวตามแบบที่กำหนดท้ายคำสั่งฉบับนี้ เพื่อแสดง
ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ/ด่านคัดกรอง
ข้อ ๖ เมื่อแรงงานต่างด้าวเข้าไปสถานที่ทำงานก่อสร้างหรือแคมป์แรงงานแล้ว ห้ามการ
เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวและครอบครัวออกนอกเขตอำเภอ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง ให้ยื่นคำขอต่อ
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่พิจารณากลั่นกรองแล้ว ขออนุญาตต่อหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค
ในพื้นที่หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับมอบหมายจะต้องเป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อด้วย แบบ
หนังสืออนุญาตให้ใช้แบบหนังสืออนุญาตออกนอกเขตจังหวัดโดยอนุโลม
ข้อ ๗ ให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง มีหน้าที่จัดทำมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด – 19
ในสถานที่ทำงานก่อสร้างและแคมป์แรงงานก่อสร้างอย่างน้อย ดังนี้ จัดทำทะเบียนคนงานและครอบครัวที่พัก
อาศัย การแยกที่พักคนงานก่อสร้างให้มีห้องน้ำในตัว การจัดน้ำดื่มและภาชนะในการบริโภคไมให้แรงงานใช้
ร่วมกัน จะต้องจัดพื้นที่ให้เพียงพอมิให้เกิดความแออัด รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด (D-M-H-T-T-A
การกำหนดให้มีอาสาสมัครในแคมป์ก่อสร้างทำหน้าที่เฝ้าระวังการป่วยและการติดเชื้อ ทั้งนี้ ให้อาสาสมัคร
ดังกล่าวจัดทำรายงานเป็นประจำทุกวันให้หัวหน้าคนงานทราบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน สำหรับพนักงาน
เจ้าหน้าที่เรียกตรวจ
อนึ่ง การดำเนินการตามคำสั่งนี้ เป็นไปตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ จึงไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้ง
ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองตามมาตรา ๑๖ ของพระราชกำหนดดังกล่าว
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท ตามมาตรา ๕๑ แห่ง
พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือ
ทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
สั่ง ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
(นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์)
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่
ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเชียงใหม่
ร่วมแสดงความคิดเห็น