(มีคลิป) ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน แถลงข่าว กรณีการเสียชีวิตของรองสารวัตร (ป้องกันปราบปราม) ไม่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 เวลา 13.00 น.ที่ ห้องประชุมหลวงจำแนก นรธรรม ชั้น 3 สภ.เมืองน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมี พ.ต.อ.ดเรศ กัลยา รอง ผบก..ภ.จ.น่าน , นายแพทย์ พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน , นางรัฐญาภรณ์ ศิลป์สุข ภรรยา ร.ต.ท.พัฒนา ศิลป์สุข , พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน , พ.ต.ท.สุวัฒน์ จินดาวรรณ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองน่าน  , พ.ต.ท.นฤดล ลือรำลึก สวป.สภ.เมืองน่าน ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ กรณี ร.ต.ท. พัฒนา ศิลป์สุข ตำแหน่ง รองสารวัตร(ป้องกันปราบปราม) สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน เสียชีวิต เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ซึ่งมีการส่งต่อข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ร.ต.ท.พัฒนา ศิลปัสุข ได้เสียชีวิต เนื่องจากรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลน่านนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และสถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของ ร.ต.ท.พัฒนา ฯ ขอชี้แจงว่า ร.ต.ท. พัฒาฯ ได้เสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (ภาวะหัวใจขาดเลือด) และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แต่อย่างใด

ซึ่งยอดกำลังพลทั้งสิ้น 1,431 นาย สมัครใจรับวัคชื่น 1,331 นาย ไม่สมัครใจ 67 นาย นอกจากนี้ มีผู้ที่มีอาการ
สำหรับข้อมูลการรับวัคนของข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ป่วย/ไม่สมัครใจ 33 นาย มีข้าราชการตำรวจรับวัคนไปแล้ว 507 นาย คิดเป็น 38.09 % ส่วนข้าราชการตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการฉีดวัคนตามที่ได้รับจัดสรร ดังนี้. ฉีดครบ 2 เข็ม จำนวน 36 นาย คิดเป็น 20.34 % , ฉีด 1 เข็ม จำนวน 20 นาย คิดเป็น 11.30 % รอรับการฉีด จำนวน 121 นาย คิดเป็น 68.36 % (ผู้เสียชีวิตอยู่ในลำดับที่ 94 )ได้รับทราบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ ร.ต.ท.พัฒนา ศิลป์สุข ในครั้งนี้และหยุดการเผยแพร่


ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และสถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชน ข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัว ซึ่งการโพสต์หรือส่งต่อข่าวปลอม สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนและสังคมในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นความผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พุทธศักราช 2550 มีโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   และพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จึงขอความร่วมมือและประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น