เชียงราย จับหนุ่ม38ปีหลอกช่วยเหลือกู้เงินแบงค์ได้แต่ต้องจ่ายเงินก่อน2ล้านบาท เจ้าทุกข์แจ้งความจับ หนีซ่อนตัวแม่จัน รับสารภาพเคยถูกจับมาแล้ว 2 ครั้ง

วันที่ 7 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.5 บก.ทล. พ.ต.ท.กรกฤช งามวงศ์วาน สว.ส.ทล.2 กก.5 บก.ทล.บูรณาการหน่วยงานในสังกัด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย สืบสวนขยายผล และติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่าในความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์” ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า2ล้านบาท

โดยทางชุดจับกุมได้ประสานชุดสืบสวน สน.บางซื่อ ร่วมกันติดตามจับกุมตัว นายพะละวัฑสิริ มาลัยเข็มทอง อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 249/2 ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับศาล แขวงดุสิต ที่56/2564 ลง 1 เม.ย.2564 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”

สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหาตามหมายจับ คือนายพะละวัฑสิริ ได้ หลอกลวงกลุ่มนักธุรกิจที่ต้องการเงินลงทุน ว่าสามารถทำแบงก์การันตี หรือหนังสือที่ธนาคารออกให้เพื่อใช้ค้ำประกันธุรกิจได้โดยอ้างว่าตนรู้จักกับผู้ใหญ่ในธนาคาร แต่มีข้อแม้ว่า ต้องยอมจ่ายค่าดำเนินการร้อยละ 10-15 ของยอดเงินที่ต้องการ กระทั่งมีผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ ที่กำลังต้องการกู้เงินกับธนาคาร 60 ล้านบาท หลงเชื่อติดต่อพูดคุยกับผู้ต้องหาให้ช่วยดำเนินการ

ผู้ต้องหาจึงเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการกับผู้เสียหาย 4 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายเป็นมัดจำก่อน 2 ล้านบาท แล้วค่อยจ่ายส่วนที่เหลือเมื่อได้รับใบแบงก์การันตี ผู้เสียหายจึงตกลงยอมจ่ายเงินให้ กระทั่งถึงกำหนดนัดหมายรับใบแบงก์การันตี ผู้ต้องหาอ้างว่าติดปัญหาบางอย่าง ก่อนจะขาดหายการติดต่อไป ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก นำเรื่องเข้าแจ้งความที่ สน.บางซื่อ จนมีการออกหมายจับดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่านายพะละวัฑสิริ มาหลบซ่อนอยู่ที่บ้านเช่าของเพื่อนในพื้นที่ ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ดังกล่าว สอบสวนนายพะละวัฑสิริ ให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้เคยถูกตำรวจกองปราบจับกุมมาแล้ว 2ครั้ง เมื่อปี 16 พ.ค 2560 และ 24 เม.ย.2563 ในความผิดลักษณะเดียวกัน เมื่อพ้นโทษออกมาจึงไปเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบประวัติ กระทั่งมาถูกจับกุมตัวอีกครั้ง เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น