หนุ่มพะเยาแอบอ้างเป็น ร.ต.อ. และรู้จักนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของเชียงราย หลอกเหยื่อโอนเงินค่าฝากลูกหลานเข้าเรียนนายสิบทหารบก มีผู้เสียหายหลายราย มทบ.37 แจง! ไม่เป็นความจริง อย่าตกเป็นเหยื่อ

วันที่ 7 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายยุทธนา (นามสมมุติ) ชาว จ.พะเยา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคำ จ.พะเยา ดำเนินคดีในขัอหาฉ้อโกงทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ และแต่งกายเลียนแบบข้าราชการตำรวจโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายหลังจากถูกผู้เสียหายจำนวนหลาย 10 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ถูกนายยุทธนาฉ้อโกงในหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งมีการแอบอ้างว่ารู้จักและสนิทสนมกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในค่ายเม็งรายมหาราช และสามารถนำบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนนายสิบทหารบกได้ โดยไม่ต้องสอบ แต่ต้องมีการจ่ายค่านายหน้าให้กับนายยุทธนา ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อสูญเงินไปนับ 100,000 บาท ต่อมาได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้นำเอกสารหลักฐานและหนังสือร้องเรียนเข้าพบผู้บังคับบัญชาระดับสูงในค่ายเม็งรายมหาราช เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับกรณีดังกล่าว

ล่าสุดวันนี้ (7 มิ.ย.64) พ.อ.อิสสระ เมาะราษี รักษาราชการแทนหัวหน้ากองข่าว มทบ.37 จ.เชียงราย
ได้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จากกรณีที่มีผู้เสียหายที่ถูกนายยุทธนา หลอกว่าสามารถฝากบุตรชายเข้าเรียนโรงเรียนนายสิบทหารบกโดยไม่ตัองสอบ ได้เดินทางมาที่กองบังคับการมณฑลทหารบกที่ 37 (ค่ายเม็งรายมหาราช) และได้นำภาพถ่ายบุคคลซึ่งแต่งกายเครื่องแบบยศ พ.อ.ถ่ายคู่กับภรรยา โดยผู้เสียหายระบุว่าถูกนายยุทธนาที่ถูกจับกุมมาพูดชักจูงว่าบุคคลในภาพเคยเป็น ผบ.ร.17 พ.4 อ.เชียงคำ และได้ย้ายมาเป็น ผบ.มทบ 37 ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูลทำให้ทราบข้อเท็จจริงว่าข้อมูลที่ปรากฏตามข่าวและลงในสื่อโซเชียลไม่ตรงกับความเป็นจริง

ทาง มทบ.37 ค่ายเม็งรายมหาราช จึงขอชี้เเจงดังนี้ การโอนเงินให้ภรรยา ผบ.มทบ 37 ข้อเท็จจริงคือเป็นการโอนเงินให้ภรรยาของบุคคลในภาพถ่าย ซึ่งหน่วย มทบ.37 ไม่มีบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่ายแต่อย่างใด ส่วนที่ระบุว่าการยื่นหนังสือให้กับ พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.มทบ.37 นั้น ข้อเท็จจริงเป็นการนำข้อมูลมาปรึกษาและตรวจสอบว่าหน่วยมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และประเด็นสุดท้ายผบ.มทบ 37 จะดำเนินคดีนายยุทธนาอีกหนึ่งข้อหานั้น ข้อเท็จจริงเป็นการแนะนำว่าหน่วยไม่เกี่ยวข้องกับคนในภาพจึงขอให้ประสานพนักงานสอบสวนในพื้นที่ให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น