(มีคลิป) ทุเรียนพื้นเมืองชื่อดัง ของ จ.แพร่ “กลิ้งโกศัย” เจ้าของสวนเปิดแผงขาย บริเวณซุ้มขายผลไม้ใกล้น้ำตกเชิงทอง

จากชื่อเสียงของทุเรียนพื้นเมืองป่าห้วยหมุ้น ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทำการน้ำตกเชิงทอง เขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ม.6 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ ชาวสวนเมี่ยงในอดีต ได้นำเมล็ดทุเรียนพันธุ์ดี มาปลูกในสวนเมี่ยงแต่ได้กลายพันธุ์เป็นทุเรียนพื้นเมือง แต่รสชาติอร่อย เปลือกบาง เนื้อแน่น หวานหอม จนเป็นที่ชื่นชอบของนักทานผลไม้ เมื่อสุกก็จะหล่นจากบนเขากลิ้งตกมายังพื้นล่าง ชาวสวนแต่ก่อนจะหาเก็บตามลำห้วยด้านล่างดอยมาขายในหมู่บ้าน และตลาดป่าแดง

ต่อมาชาวสวนที่มี 5 รายได้นำผ้าพลาสติก หรือผ้าสแลมมาขึงตามแนวเขาเป็นแนวรับลูกทุเรียนไม่ให้กลิ้งตกเขา เป็นชั้นๆ จนทั่วทั้งสวน สวนใครสวนมัน ทำให้แยกผลิตได้ถูกต้อง แต่จะไม่ทราบว่ามาจากต้นไหน บางต้นรสชาติต่างกัน แล้วแต่ชนิดของเมล็ดที่นำมาเพาะ และปลูก จึงเรียกทุเรียนพื้นเมือง ที่ปลูกในโซลนี้ว่า ทุเรียนพันธุ์กลิ้ง ต่อมาได้เติมคำว่า “โกศัย” หรือชื่อในอดีตของเมืองแพร่ เป็นกลิ้งโกศัย หรือทุเรียนพันธุ์กลิ้งเมืองแพร่ จนฮิตติดปาก ชาวสวนจะขึ้นไปเก็บ 2 เวลา เช้า-บ่าย ซึ่งปัญหาคือตอนกลิ้งตกจะมีสัตว์ป่า ประเภท กระรอกป่า หนูป่า หมูป่า มากัดกิน เพราะเป็นเขตอนุรักษ์ของอุทยานฯ เก็บได้เท่าไหร่ขายเท่านั้น

เมื่อเป็นที่นิยม ก็มีการนำทุเรียนนอกพื้นที่ ซึ่งเป็นทุเรียนพื้นเมือง ที่ปลูกแหล่งอื่น มาแอบอ้างขายว่าเป็น ทุเรียนพันธุ์กลิ้งโกศัย ซึ่งทุเรียนพื้นเมือง รูปผลและขนาดจะเหมือนกัน ใน จ.แพร่ มีทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองปลูกหลายแห่ง ทำให้ผู้บริโภคไม่มีความเชื่อมั่น แม้จะเป็นทุเรียนปลูกในป่าตามเส้นทางสายธรรมชาติ สายเดียวกัน แต่สภาพอากาศและดิน อาจทำให้รสชาติแตกต่าง หรือซื้อทุเรียนของชาวสวนของแท้ไปบางส่วน แต่อีกส่วนก็มาจากแหล่งอื่น อาศัยชื่อเสียงขายผลไม้ ทำให้ นางจ๋อน ปัญญาพยัคฆ์ และนางแสงหล้า เจ้าของสวนทุเรียน และญาติพี่น้องที่ทำสวนทุเรียนเจ้าดั่งเดิม มีสวนติดที่ทำการอุทยานฯ ใกล้น้ำตกเชิงทอง ต้องนำทุเรียน ของแท้ มาวางแผงขายใกล้กับปากทางลงมาจากสวนแค่ 300 เมตร

ลูกค้าจะมาท่องเที่ยวเส้นทางธรรมชาติ จะมาซื้อทุเรียนกันตลอด ถึงช่วงบ่ายก็หมด แต่ต้องขนลงเขามาเป็นเที่ยว ๆ ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบแกะทุเรียนทานกันที่แผงขาย จนพอใจ ก็ซื้อติดมือไปฝากคนที่บ้าน จึงเป็นการท่องเที่ยวที่สนุกสนาน ระยะเวลาการเก็บทุเรียนมาขายมีเวลาแค่ 2 เดือน ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. ของทุกปี แต่ 2 ปีที่ผ่านมาอากาศแล้งจัด จึงไม่มีผลผลิตจำหน่าย ทำให้ขาดรายได้ แต่ปีนี้มีฝนตกตั้งแต่ต้นปี จึงมีผลผลิตมาจำหน่าย แต่เปลี่ยนสถานที่ขายมาอยู่ที่ใกล้สวน หรือน้ำตกเชิงทอง….เพื่อรักษาชื่อเสียงทุเรียนให้เป็นที่ยอมรับกันต่อไป

สมฤทธิ์/แพร่

ร่วมแสดงความคิดเห็น