หวั่นโควิดระลอกใหม่ แห่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคทุกกลุ่มเสี่ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกพงศ์ ทุนอินทร์ นายก ทต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พร้อมบุคลากรในสังกัด ได้จัดรถบริการรถรับ-ส่ง ประชาชนกลุ่มอายุ 60 ปี และผู้ป่วย 7 โรคฯ ในพื้นที่ ต.แม่แรง ที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม เข้ารั บการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ โรงพยาบาลป่าซาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

นอกจากนั้น ยังได้เร่งระดมแผนประชาสัมพันธ์ เชิญชวนประชาชนในพื้นที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ สร้างเกราะป้องกันโรคทั้งต.แม่แรง ให้รับความรู้ ความเข้าใจในการฉีดวัคซีน ที่จะสามารถช่วยในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง และลดโอกาสเสียชีวิตเมื่อติดโรค

ทั้งนี้จากการสอบถามประชาชน กลุ่มผู้สูงวัย ในพื้นที่ ต.แม่แรง ที่มารับบริการฉีดวัคซีน เพราะกังวลการแพร่ระบาดของโรคนี้ ที่อาจเกิดขึ้นเป็นระลอก ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และเป็นการป้องกันตนเองจากความเสี่ยงของโรคนี้ด้วย

“ที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบ 3 ทำให้การใช้ชีวิต ต้องปรับตัว บรรดาลูกหลาน ที่ทำงานต่างจังหวัด โดยเฉพาะในกลุ่มพื้นที่เสี่ยง แทบไม่มีโอกาสมาเยี่ยมบ้านหรือร่วมกิจกรรมงานบุญ ของชุมชน ต่างฝ่ายต่างกังวลจะเป็นต้นตอการติดต่อโรค แพร่โรคกัน ดังนั้นการพูดคุยก็จะใช้โทรศัพท์ เป็นหลัก ซึ่งคาดว่า หลังจากหลายภาคส่วนเร่งระดม การฉีดวัคซีน ในกลุ่มเสี่ยงก่อน และกลุ่มทั่วๆ ไป คาดว่า ช่วงเข้า-ออกพรรษา 25 ก.ค.-23 ต.ค.นี้ คงมีโอกาส ที่ลูกหลานจะได้มาพบปะพร้อมหน้าพร้อมตากัน มาทำบุญร่วมกัน ใช้ชีวิตเป็นปกติเหมือนเดิม ตามวิถีชุมชนชาวยอง”

กลุ่มผู้สูงวัย ในชมรมผู้สูงอายุ ต.แม่แรง กล่าวว่า เรื่องอื่น ชะลอไว้ก่อน ให้มีการฉีดวัคซีน เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ แล้วค่อยมาคิด วางแผน กระตุ้นเศรษฐกิจ สังคม ซึ่ง ต.แม่แรง อ.ป่าซาง ลำพูน เป็นแหล่งหัตถกรรม ที่มีชื่อเสียงของประเทศ ผลิตผ้าทอพื้นเมือง งานหัตถศิลป์ มีงานประเพณีที่นักท่องเที่ยวรู้จักทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น งานผ้าฝ้าย งานแต่งสีบ้านดอน งานผ้าบาติค

“ประกอบกับพื้นที่ มีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคม ถนน 116 สายเมืองลำพูน-ป่าซาง ไปจรดเส้น ทล.108 สายเชียงใหม่-ฮอด และศักยภาพแหล่งธุรกิจร้านค้าในชุมชน สามารถเดินเครื่อง ตามแผนกระตุ้น ส่งเสริมภาคบริการ ภาคท่องเที่ยวได้ ถ้ามีภูมิคุ้มกันหมู่ มีการฉีดวัคซีนตามแผน และมาตรการต่างๆ ของทางสาธารณสุข นโยบายภาครัฐ ที่กำหนดไว้ ภายในช่วงปลายปี หรือช่วงต้นปีหน้า อะไรๆ น่าจะดีขึ้น ซึ่งจะไปถึงจุดนั้นได้ การรับฉีดวัคซีน ป้องกันโรคโควิด-19 จะเป็นจุดเริ่ม ต้องร่วมมือ ร่วมใจกัน ฉีดวัคซีนให้เข้าเป้า”