คืนความสุขให้แฟนบอล ซัมมิทฟุตแวร์ ทุ่ม 300 ล้าน ซื้อลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสด

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดเผยถึงการที่ประเทศไทยได้รับลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 (ยูโร 2020) อย่างเป็นทางการ หลังจาก บริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด ได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสดผ่านทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) กรมประชาสัมพันธ์ ภายใต้สโลแกน “คืนความสุข ให้คนไทยได้ดูบอล ยูโร 2020”

นายอนุชา กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลยูโร ถือเป็นรายการที่ประชาชนคนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกปีจะมีภาคเอกชนเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด แต่ด้วยสถานการณ์ปัจุบัน จึงสะท้อนมาถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จึงได้มอบหมายให้ผมลงมาประสานเพื่อนำการถ่ายทอดสดรายการดังกล่าวมาให้ประชาชนคนไทยได้ชม

“เรามีเวลาในการประสานแบบจริงจังเพียง 2 วันเท่านั้น ซึ่งได้ปรึกษาฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และตกลงให้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการประสานไปยังเจ้าของสิทธิ์เพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ซึ่งเดิมเราได้คุยกับภาครัฐและเอกชนมากมาย ซึ่งก็สนใจจะเข้ามาสนับสนุน แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิด นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด จึงได้ทุ่มเงินซื้อเพียงผู้เดียว และมอบให้ NBT ถ่ายทอดสดให้ชม ทำให้คนไทยได้ชมการแข่งขันแบบครบทุกคู่ และไม่ได้ใช้งบประมาณของภาครัฐเลย ซึ่ง บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ได้ทุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์ กว่า 10 ล้านดอลลาร์ หรือราว 310 ล้านบาทในการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้”

ขณะที่นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ตอนแรกที่คุยกัน คิดว่าจะช่วยสนับสนุน 10 ล้านบาท แต่ด้วยเวลากระชั้นชิด จึงจำเป็นต้องทุ่มเงินเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเข้ามาเพียงผู้เดียว ซึ่งใช้เวลาในการตัดสินใจเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น โดยขณะนี้การเซ็นสัญญาได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าประชาชนคนไทยจะได้รับชมครบทุกคู่อย่างแน่นอน”สำหรับฟุตบอลยูโร 2020 จะแข่งขันระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน-11 กรกฎาคม 2564 โดยนัดเปิดสนามจะเป็นการพบกันระหว่าง อิตาลี พบ ตุรกี ในเวลา 02.00 น.ตามเวลาประเทศไทย

ร่วมแสดงความคิดเห็น