(มีคลิป) วงจรปิดแฉพฤติกรรม “มนุษย์ป้า” ขโมยของร้านขายเครื่องสำอางดังกลางเมืองเชียงใหม่ ไม่สนกล้องที่ติดตั้งในร้าน

ภาพวงจรปิดแฉพฤติกรรมหญิงวัยกลางคน อายุประมาณ 40 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพูสะพายกระเป๋า ซึ่งก่อเหตุขโมยข้าวของเครื่องใช้ และเครื่องสำอางภายในร้านเชียงใหม่คอสเมติคส์ สาขาหน้าวัดพระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยทำทีเข้ามาซื้อของภายในร้าน และเลือกสินค้าใส่ตะกร้า แต่เมื่อสบโอกาสช่วงที่ไม่มีคนเห็นได้หยิบของในตะกร้าใส่กระเป๋าสะพายตัวเอง ซึ่งระหว่างก่อเหตุ กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งภายในร้านสามารถบันทึกภาพของหญิงวัยกลางคนรายนี้ได้อย่างชัดเจน ก่อนที่ทางเจ้าของร้านและเจ้าหน้าที่ภายในร้านจะดำเนินการตรวจสอบ พร้อมทั้งนำภาพคลิปวิดีโอดังกล่าวมาเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล พร้อมทั้งขอให้หญิงที่ก่อเหตุรีบเข้ามาพบที่ร้าน โดยให้โอกาส 3 วัน และหากยังไม่มาแสดงตัวก็จะนำหลักฐานทั้งหมดที่มีแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

โดยล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้เข้าดำเนินการสอบถามกับทางร้าน ซึ่งทราบเบื้องต้นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 25 พ.ค.64 ที่ผ่านมา โดยหญิงรายนี้ได้เข้ามาทำทีเลือกซื้อของภายในร้านตามโซนต่างๆ และได้หยิบสินค้าหลายรายการใส่ลงในตะกร้า ก่อนที่จะเดินมายังบริเวณช่องวางสินค้าภายในร้าน ซึ่งอาศัยจังหวะช่วงที่ไม่มีลูกค้าคนอื่นและพนักงานในร้านหยิบสินค้าที่ใส่ในตะกร้า ยัดเข้ากระเป๋าสะพายของตัวเอง โดยใช้ตะกร้าใส่สินค้าบัง แล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินของร้าน ชำระเงินสินค้าแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าสินค้าที่ถูกหญิงรายนี้ขโมยไป คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,700 บาท โดยที่ระหว่างหญิงรายนี้ก่อเหตุก็มีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน จนกระทั่งทางร้านได้นำภาพมาตรวจสอบ และได้ทำการรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมของหญิงรายนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว โดยรูปพรรณเบื้องต้นของหญิงก่อเหตุรายนี้เป็นหญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 40 ปี สูงประมาณ 155 ซม. ผมยาวสีทอง

ขณะที่ทางด้าน น.ส.วราภรณ์ สว่างศรี ผู้จัดการร้านเชียงใหม่คอสเมติคส์ บอกว่า สำหรับหญิงที่ก่อเหตุในกล้องวงจรปิดรายนี้ ทางร้านได้มีหลักฐานในการเอาผิดไว้หมดแล้ว ซึ่งทางร้านก็ได้มีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยวานนี้ (11 มิ.ย.64) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ช้างเผือกก็ได้มีการเข้ามาตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งในส่วนของทางร้านนั้นจะให้โอกาสกับหญิงที่ก่อเหตุเป็นเวลา 3 วัน ในการเข้ามาติดต่อกับทางร้าน พร้อมทั้งนำสินค้าที่ได้ก่อเหตุขโมยไปมาคืน แต่หากยังไม่มีการติดต่อมาหรือไม่มาแสดงตัว ทางร้านก็จะนำหลักฐานที่มีดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

ร่วมแสดงความคิดเห็น