ปภ.แนะรู้หลักขับรถผ่านเส้นทางฝนตก ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ

การขับรถในช่วงฝนตกมีความเสี่ยง ต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่น มีน้ำท่วมขัง และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีการขับรถในช่วงฝนตกอย่างปลอดภัย ดังนี้

ใช้ความเร็วเหมาะสม ให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • ไม่ขับรถเร็ว ใช้ความเร็วในระดับที่ควบคุมรถได้ เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ทำให้ระยะทางในการหยุดรถมากกว่าปกติ
  • ใช้ความเร็วเหมาะสมกับสภาพถนน และระยะในการมองเห็นเส้นทาง จะช่วยสามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดความเร็วเมื่อขับผ่านแอ่งน้ำ จะช่วยป้องกันรถเหินน้ำ

เว้นระยะห่างให้มากกว่าปกติ ให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าปกติ หากเกิดเหตุฉุกเฉินบนเส้นทาง จะช่วยให้รถหยุดได้อย่างปลอดภัย
  • ไม่ขับรถตีคู่รถขนาดใหญ่ เพราะน้ำจะสาดใส่กระจกหน้ารถ บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง และน้ำอาจจะเข้าไปห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์ดับได้

ใช้ระบบปัดน้ำฝนอย่างถูกวิธี ให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • ปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝน ให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณน้ำฝน
  • ฉีดน้ำล้างกระจก ทำความสะอาดคราบสกปรก เพื่อลดการเสียดสีของใบปัดน้ำฝนกับกระจกรถ

ใช้ช่องทางให้ถูกต้อง ให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • ขับรถให้อยู่ในช่องเดินรถ ไม่เปลี่ยนช่องทางการทหารและไม่แซงรถคันอื่นในระยะกระชั้นชิด
  • ให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนจะเปลี่ยนเส้นทาง ในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร และมองเส้นทางให้รอบด้าน เมื่อรถคันอื่นอยู่ในระยะไกล จึงค่อยเปลี่ยนช่องทาง

หยุดรถปลอดภัย ให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน โดยเฉพาะเส้นทางที่มีแอ่งน้ำ ทางโค้ง เพราะอาจจะทำให้รถเสียการทรงตัวจนเกิดอุบัติเหตุได้
  • หากจำเป็นจะต้องหยุดรถ ให้ค่อยๆ ถอนคันเร่ง และแตะเบรกเบาๆ เพื่อลดระดับความเร็ว ไม่เหยียบเบรกให้รถยนต์ในทันที เพราะจะทำให้รถเหินน้ำและควบคุมรถไม่ได้ จนทำให้ลื่นไถลออกนอกเส้นทาง

ใช้สัญญาณไฟอย่างเหมาะสม ให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • เปิดใช้เส้นสัญญาณไฟหน้า กรณีฝนตกท้องฟ้ามืดครึ้ม จะช่วยมองเห็นเส้นทาง และรถคันอื่นมองเห็นรถเราได้จากระยะไกล
  • เปิดใช้ไฟตัดหมอก กรณีขับรถช่วงกลางคืนที่มีฝนตกหรือมีน้ำขัง จะช่วยลดการสะท้อนของแสงไฟหน้ารถกับพื้นถนน
  • ไม่เปิดใช้สัญญาณไฟหรี่ เพราะแสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน
  • ไม่เปิดใช้สัญญาณไฟสูง เพราะแสงไฟจะสะท้อนกับน้ำบนพื้นถนน ทำให้ผู้ขับขี่รถสวนทางมาตาพร่ามัว
  • ไม่เปิดใช้สัญญาณไฟกระพริบ เพราะทำให้ไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวใช้ อาจจะสร้างความเข้าใจผิดกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง

ทั้งนี้ การขับรถในช่วงฝนตก มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ แต่หากผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย โดยไม่ขับรถเร็ว ลดความเร็วเมื่อขับผ่านแอ่งน้ำ ทางโค้ง เพิ่มระยะห่างให้มากกว่าปกติ ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ไม่แซงรถคันอื่น

ในระยะกระชั้นชิด ให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนจะเปลี่ยนเส้นทาง หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน เพราะอาจจะทำให้รถเสียการทรงตัวจนเกิดอุบัติเหตุนอกจากนี้ เปิดใช้เส้นสัญญาณให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะทำให้การขับขี่ในช่วงฤดูฝนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น