อ.เทิง ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 10 ราย นอภ.เน้นย้ำมาตรการคุมเข้มกักตัวผู้มาจาก 13 จังหวัดเสี่ยง มั่นใจยังเอาอยู่!

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของ สสจ.เชียงราย วันนี้นี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 16 ราย โดยอำเภอที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดเป็นที่ อ.เทิง ที่มีผู้ติดเชืัอจำนวน 10 ราย อ.เมืองเชียงราย 2 ราย อ.แม่สาย 1 ราย อ.เชียงของ 1 ราย อ.เวียงชัย 1 ราย และใน Local Quarantine 1 ราย โดยมีผู้ป่วยยอดสะสม 997 ราย รักษาหายแล้ว 756 ราย กำลังรักษา 227 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ราย ยอดสะสมผู้เสียชีวิต 14 ราย

นายบุญส่ง ตินารี นอภ.เทิง จ.เชียงราย เผยว่า ผู้ป่วยที่ตรวจพบเพิ่มเติมในวันนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ ผู้ป่วยในคลัสเตอร์ตับเต่าจำนวน 7 คน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นการพบเชื้อภายในสถานที่กักตัว เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านรักแผ่นดิน ม.12 ทั้งหมด ผู้ป่วยอีก 3 คนอยู่ในพื้นที่ ต.ปล้อง เป็นกลุ่มจากแค้มป์คนงานจาก กทม. 2 ราย กลุ่มนี้รู้ตัวว่าติดโควิดและแจ้งญาติ ผู้นำ และ อสม.ก่อนเข้าพื้นที่ โดยแยกตัวออกไปพักที่สวนลำไยท้ายหมู่บ้าน ไม่ได้ใกล้ชิดสัมผัสกับบุคคลอื่น และอีก 1 ราย เป็นผู้ป่วยที่ไปเฝ้าไข้ญาติที่ รพ.เทิง และรับเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ซึ่งทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว

สำหรับกรณีที่พบผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงเรียนคริสเตียนฯ พื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า ซึ่งผู้ติดเชื้อมีภูมิลำเนาเป็นชาว ต.ตับเต่า อ.เทิง จนทำให้เกิดการแพร่เชื้อภายในโรงเรียน มีผู้ติดเชื้อประมาณ 7 คน ทางอำเภอได้ติดต่อสอบถามไปยังพื้นที่แล้วทราบว่า เด็กนักเรียนดังกล่าวเป็นชาวบ้านบ้านแผ่นดินทอง ม.12 ที่เดินทางไปเรียนในโรงเรียนประจำดังกล่าว โดยเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะพบการแพร่ระบาดในพื้นที่ แต่มาปรากฏอาการในช่วงปลายเดือน ไม่ได้เดินทางออกจากพื้นที่ไปหลังจากการประกาศล็อคดาวน์พื้นที่แต่อย่างได ช่วงนี้ทางอำเภอได้กำหนดมาตรการเข้มข้นในการควบคุมพื้นที่ ต.ตับเต่า ทั้ง 25 หมู่บ้าน ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายเข้าออกหมู่บ้านโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะที่บ้านแผ่นดินทอง ม.12 และบ้านรักแผ่นดิน ม.15 ซึ่งเป็น 2 หมู่บ้านที่พบการแพร่ระบาดอยู่ โดยห้ามออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด ยกเว้นนอกจากกรณีเจ็บป่วย และไปทำการเกษตรภายในพื้นที่หมู่บ้าน หรือหากมีพื้นที่การเกษตรอยู่นอกหมู่บ้านก็ต้องขออนุญาตผู้นำชุมชน ทางผู้นำชุมชนก็จะประสานไปยังหมู่บ้านปลายทางเพื่อแจ้งว่าจะมีชาวบ้านเข้าพื้นที่เพื่อทำการเกษตร โดยต้องมีการเช็คเวลาไปกลับอย่างเคร่งครัด จะอนุญาตให้ออกบ้านไปทำการเกษตรได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 2 วัน

นอกจากนี้ทางอำเภอเทิงยังได้กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ โดยผู้ที่เดินทางมาจาก 13 จังหวัดกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม ตาก ชลบุรี ระยอง ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม หรือวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มาไม่น้อยกว่า 14 วัน หรือได้รับหนังสือรับรองการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT PCR หรือ Antigen Rapid Test มาไม่เกิน 72 ชั่วโมง หากไม่มีทั้ง 2 อย่าง จะมีหนังสือคำสั่งจากคณะกรรมการควบคุมคุมโรคติดต่ออำเภอ ให้กักตัวในสถานที่ที่ภาครัฐหรือชุมชนได้จัดเตรียมไว้

ส่วนผู้ที่เดินทางมาจาก 13 จังหวัดกลุ่มเสี่ยงที่ผ่านการฉีดวัคซีนหรือมีหนังสือรับรองการตรวจหาเชื้อโควิดมาแล้ว หรือคนที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ อ.เทิง จะต้องแจ้งผู้นำชุมชน อสม. ให้ทราบก่อนเข้าพื้นที่อย่างน้อย 2 วัน โดยจะต้องเข้าพื้นที่ตั้งแต่เวลา 05.00 -20.00 น. และจะต้องกักตัวอยู่ภายในที่อยู่อาศัยเพื่อสังเกตุอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน ไม่ออกไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น

“จากตัวเลขการแพร่ระบาดล่าสุด จะเห็นว่าเคสผู้ป่วยจากแค้มป์คนงาน กทม. ก็ได้แยกตัวตั้งแต่เข้าพื้นที่ ส่วนผู้ป่วยพื้นที่บ้านดอนดินแดง ต.ปล้อง ซึ่งรับเชื้อจากการไปดูแลใกล้ชิดผู้ป่วยก็เข้ารับการรักษาที่ รพ.แม่ฟ้าหลวง ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดประมาณ 30 คน ก็ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้ว ผลการตรวจจะทราบในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) ส่วนคลัสเตอร์ตับเต่าก็เป็นการตรวจพบเชื้อภายในสถานที่กักตัว ซึ่งอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่อยู่ก่อนแล้ว ทำให้ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ มั่นใจว่าสถานการณ์ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นที่สามารถควบคุมได้” นอภ.เทิง กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น