นายกแม้ว เดือดทนไม่ไหว เรียกผู้รับเหมามาชี้แจง หลังหมดสัญญา ทิ้งงานไปกว่า 1 ปี ถูกปรับไปแล้วกว่า 4 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน นายปกรณ์ จีนาคำ ( นายกฯ แม้ว ) นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ได้ทำหนังสือเรียกเจ้าของบริษัทผู้รับเหมา โครงการปรับปรุงผิวจราจรลาดยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต (AC)ในเขตเทศบาลฯ มาชี้แจงต่อหน้าสมาชิกสภาเทศบาล และผู้นำชุมชนในเขตเทศบาลฯ โดยมี นายวรสิทธิ์ จาตุรัตน์ คลังจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานพบปะพูดคุย พร้อมด้วยฝ่ายช่างสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากผู้รับเหมาทิ้งงานมาเป็นแรมปี

ทั้งนี้สืบเนื่องมากจาก จังหวัดแม่ฮ่องสอน/เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน จะทำการปรับปรุงผิดจราจรในเขตเทศบาลฯ และได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง เป็นผู้รับจ้างให้เข้ามาดำเนินงาน ตามโครงการปรับปรุงผิดจราจรลาดยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต(AC) ถนนขุนลุมประพาส ตั้งแต่หน้าซุ้มประตูด้านทิศตะวันตก ผ่านหน้าศาลากลางจังหวัด ไปสิ้นสุดที่บริเวณหน้าซุ้มประตูด้านทิศเหนือ ติดกับโรงเรียนห้องสอนศึกษา ในเขตเทศบาลเมือง ตำบลจองคำ  ขนาดกว้างเฉลี่ย 6 เมตร ระยะทางรวม 3,425 เมตร (3.425 กม.) หรือมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 67,000 ตารางเมตร โดยมีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหน่วยงานดำเนินการออกแบบ และเป็นคู่สัญญากับบริษัท วงเงินงบประมาณ 17,635,203.06 (สิบเจ็ดล้านหกแสนสามหมื่นห้าพันสองร้อยสามบาทหกสตางค์) สัญญาเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.63 กำหนดแล้วเสร็จ 18 ต.ค. 63

นายปกรณ์ จีนาคำ นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า โครงการปรับปรุงผิวจราจรถนนสายขุนลุมประพาส ในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร โดยมีโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นคู่สัญญากับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง ตามโครงการปรับผิวจราจรดังกล่าว หลังจากรับงานผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการปรับผิวจราจรในช่วงแรก เพียงเล็กน้อยการก่อสร้างล่าช้ามาก และก็เงียบหายไป ไม่เข้ามาดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญา ทำให้ประชาชนทั้งในเขตเทศบาลเมือง และนอกเขตเทศบาล รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบในการสัญจรไปมาเป็นอย่างมาก และยังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

นอกจากนี้ ถนนสายดังกล่าวนอกจากจะเป็นถนนสายเมนหลักแล้ว ยังเป็นถนนเฉลิมพระเกียรติอีกด้วย ผู้รับเหมาทิ้งงานจนทำให้หมดสัญญาไปตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 63 ถูกปรับวันละ 17,634 บาท รวมแล้วผู้รับเหมาโดนปรับไปแล้วกว่า 4,496,925 บาท (สี่ล้านสี่แสนเก้าหมื่นหกพันเก้าร้อนยี่สิบห้าบาท ) และก็จะต้องถูกปรับไปเรื่อย ๆ ทุกวัน ขณะนี้เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ที่ผู้รับเหมาทิ้งงานไม่เข้ามาดำเนินการ ตนและสมาชิกสภาเทศบาล รวมทั้งผู้นำชุมชนทนไม่ไหวแล้ว ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหนัก จึงได้ทำหนังสือเรียกผู้รับเหมามาชี้แจงถึงเหตุผลต่อหน้า คลังจังหวัด , โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมทั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองและผู้นำชุมชน เบื้องตนผู้รับเหมารับปากว่า จะเข้ามาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน กันยายน 64 โดยจะเริ่มเข้าดำเนินการปรับปรุงผิดจราจรดังกล่าว ได้ประมาณกลางเดือน ก.ค. 64 ซึ่งทางเราก็จะรอดูต่อไป

นายวรสิทธิ์ จาตุรัตน์ คลังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากผู้รับเหมาทิ้งงาน ทุกคนก็มีข้อเคลือบแคลงสงสัยกับการทำงานของบริษัท ผู้รับเหมาทำไมถึงทิ้งงานไป วันนี้กรรมการผู้จัดการของบริษัทผู้รับเหมาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทด้วย มาชี้แจงด้วยตนเอง มาให้คำยืนยันให้กับทางชุมชนกับทางจังหวัดด้วย โดยทางผู้รับเหมาหรือผู้รับจ้างรับปากว่าจะเข้ามาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน 64 เมื่อรับปากแล้วหากบริษัทไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ ก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายและจะสั่งเป็นผู้ทิ้งงานตามลำดับต่อไป ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือนกันยายน 64 ชาวแม่แม่ฮ่องสอนจะได้ใช้ถนนเส้นนี้

สาเหตุที่ผู้รับจ้างทิ้งงานเท่าที่รับฟังคำชี้แจงมาจากขาดสภาพคล่อง และปัญหาในเรื่องโควิดในช่วงนี้ รวมทั้งเป็นช่วงฤดูฝนอาจจะเป็นปัญหาอุปสรรคในการทำงาน แต่อย่างไรก็ตาม ผู้รับจ้างก็ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องไปแล้ว เช่นได้จัดหาวัสดุที่จะนำมาใช้ในการปรับปรุงถนน ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ในส่วนของภาครัฐทั้งโยธาธิการและผังเมือง คณะกรรมการตรวจการจ้าง ผู้คุมงาน เทศบาล และตนซึ่งเป็นตัวแทนของจังหวัด ไม่เป็นปัญหาและอุปสรรค แต่ปัญหาอยู่ที่ผู้รับจ้าง และวันนี้ผู้รับจ้างได้มายืนยันกับชุมชนแล้วว่าจะสามารถดำเนินการได้ ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้รับจ้าง ซึ่งทางภาครัฐพร้อมจะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้การดำเนินโครงการต่อให้แล้วเสร็จ ประชาชนจะได้ใช้ถนนสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกต่อไป


ทศพล / แม่ฮ่องสอน

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น