ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถิติผูปวยโควิดจ.แพร่จนถึงวันที่ 7 ก.ค 64 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม 12 ราย เป็นกรณีคนแพร่ไม่ทิ้งกัน 5 ราย ส่วนในจังหวัดมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 ราย วังชิ้น ต.แม่พุง 3 ราย สูงเม่น ต.สูงเม่น 3 ราย อ.เมือง ต.วังธง1 ราย เนื่องจากบางรายเดินทางกลับมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงสูงแล้วไม่แจ้งล่วงหน้าต่อ อสม.หรือผู้นำฯทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 145 รายโดยเป็นติดเชื้อสะสมในจังหวัด 116 ราย คนแพร่ไม่ทิ้งกันยอดสะสม 29ราย (เสียชีวิตสะสม2ราย) รักษาหายแล้ว102 ราย คงเหลือที่ยังรักษาตัวอยู่34 รายส่วนที่เหลือนำเข้าทำการรักษา
โดยวันนี้ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ในสถานที่จังหวัดจัดไว้ให้ 20ราย.มีรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ 55 รายยังคงมีการตรวจเฝ้าระวังเชิงรุกจากกลุ่มเสี่ยงอยู่อย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำผู้ที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง24 จังหวัดต้องกักตัวอย่างเคร่งครัดปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัด ฝากพี่น้องประชาชน อสม.และผู้นำฯเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างเคร่งครัด
…….ในความร่วมมือศูนย์กักกันตัวประจำหมู่บ้านซึ่งกระจายตัวอยู่ตามท้องที่ต่างๆได้รับความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่นเป็นอย่างดี
…… เป็นต้นว่าที่ร.ร.บ้านแม่กะทิง หมู่ 3ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ในช่วงเย็นวันที่7ก.ค.64 นายเชาว์ กาศเจริญ ผญบ.ม.3บ้านแม่กะทิง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ศูนย์กักกันของหมู่บ้านได้รับตัวผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงมากักกันตัว 6 คนมาไว้ดูแล จาก 3ครอบครัวเพื่อมากักกันตัวไม่ได้เป็นผู้ป่วย และชาวบ้านก็ยินยอมเนื่องจากเป็นคนในหมู่บ้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มาเยี่ยมมีท่านผวจ.แพร่ นายอำเภอร้องกวางสจ .ในพื้นที่
…..ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ศูนย์กักกันร.ร.บ้านแม่กะทิงพบนางรจนา(สงวนนามสกุล )อายุ 58ปี กำลังให้น้ำดื่มหลานชาย ที่พักอยู่บนบ้านพักครูโดยใช้เชือกหย่อนลงมามีถังน้ำเพื่อใช้บรรจุสิ่งของ น้ำดื่ม เป็นต้น หลานชายที่อยู่บนบ้านพักได้สาวเชือกถังน้ำบรรจุของขึ้นไป
…….นางรจนา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้มาอยู่เป็นเพื่อนหลานชาย ซึ่งเดินทางมาจากจ.สมุทรปราการพื้นที่เสี่ยงเป็นนักเรียนชั้นม.1ร.ร.ปิดเรียนออนไลน์ที่บ้านก็เบื่อจึงขอกลับบ้าน ที่จ.แพร่ตนสงสารหลานชาย ก็เลยมาเฝ้าหลานชายไม่ได้ติดโควิดแต่มาจากพื้นที่เสี่ยงพรุ่งนี้จะไปตรวจที่ร.พ.ร้องกวางอีกครั้ง วันที่ 9 ก.ค.ก็จะครบกำหนดกักตัวแล้ว อาหารการกินมาช่วยดูแลให้ อาหารที่ทางการมอบให้หลานชายก็เบื่อ
ร่วมแสดงความคิดเห็น