(มีคลิป) เมืองสามหมอกพบติดเชื้อโควิด 2 ราย หลังโรคสงบนานถึง 49 วัน

จ.แม่ฮ่องสอน พบผู้ติดเชื้อโรคโควิด 2 ราย หลังไม่พบผู้ติดโรคโควิดในพื้นที่มานานถึง 49 วัน ล่าสุด อ.แม่ลาน้อย ไข่แตกแล้ว พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ปัจจุบันมีผู้ป่วยรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จำนวน 6 ราย และรักษาที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง จำนวน 2 ราย รักษาหายแล้ว 49 รายโดยผู้ป่วยทั้ง 57 ราย จำแนกเป็นเพศชาย 32 ราย (56.14%) เพศหญิง 25 ราย (43.86%) โดยมีปัจจัยเสี่ยง ระยะแรก จากการไปเที่ยวสถานบันเทิง ทำงานในสถานบันเทิง

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการ จ.แม่ฮ่อง สอน ประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ในการระบาดระลอกใหม่เมษายน 2564 ของ จ.แม่ฮ่องสอน ว่าหลังจากที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ นับตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา รวมเป็นระยะเวลา 49 วัน และช่วงวันที่ 5 – 7 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ จ.แม่ฮ่องสอน แต่ไปป่วยอยู่ที่กรุงเทพฯ และ จ.นครปฐม มารักษาที่โรงพยาบาล รวมจำนวน 6 ราย เนื่องจากโรงพยาบาลในพื้นที่ดังกล่าว ไม่มีเตียงว่างรองรับผู้ป่วยไว้ รักษาในโรงพยาบาลนั้น

ล่าสุดในวันนี้ ( 8 ก.ค.64 ) ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นผู้เดินทางมาจาก พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. CASE MS56 เพศหญิง อายุ 30 ปี ที่อยู่ตามภูมิลำเนา อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เดินทางมาจาก กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 โดยรถยนต์โดยสารบริษัทนครชัยแอร์ ผ่าน จ.เชียงใหม่ และเดินทางต่อโดยรถโดยสารประจำทางบริษัทเปรมประชา ถึงด่านแม่ปิง อ.ปาย ในวันที่ 7 ก.ค. 2564 และถูกตรวจคัดกรอง พบว่ามีไข้ ร่วมกับอาการ ไอ เจ็บคอ จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปาย และเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลพบเชื้อ รับการรักษาที่โรงพยาบาลปาย และได้ส่งต่อมารับการที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 7 ราย ซึ่งแนะนำให้แยกสังเกตอาการ ณ ที่พัก เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลปายวันนี้
  2. CASE MS57 เพศหญิง อายุ 18 ปี นักศึกษา เดินทางพร้อมเพื่อนอีก 3 คน ที่อยู่ตามภูมิลำเนา อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ทั้ง 4 คน เดินทางจาก จ.ปทุมธานี เข้ากรุงเทพฯ วันที่ 6 ก.ค 2564 และเวลา 17.00 น. ขึ้นรถสมบัติทัวร์ (ปลายทาง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ) เลขที่นั่ง 3D วันที่ 7 ก.ค 2564 เวลา 05.40 น. ลงรถที่หน้าโรงพยาบาลแม่ลาน้อย และได้เข้ามาโรงพยาบาล เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจก่อนเข้าหมู่บ้าน ผลพบเชื้อ 1 คน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่ลาน้อย และได้ส่งต่อมารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ ส่วนอีก 3 คน ผลไม่พบเชื้อให้แยกสังเกตอาการที่บ้านอย่างเข้มงวด สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงบนรถโดยสารทีมสอบสวนควบคุมโรค อ.แม่ลาน้อย และ อ.เมือง อยู่ระหว่างสอบสวนโรคและติดตามเพิ่มเติม

สรุป สถานการณ์ปัจจุบัน ( ณ วันที่ 8 ก.ค.2564) จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เข้ารับการรักษาในจังหวัด ระลอกเดือนเมษายน จำนวน 57 ราย โดยปัจจุบัน รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จำนวน 6 ราย และรักษาที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง จำนวน 2 ราย รักษาหายแล้ว 49 ราย โดยผู้ป่วยทั้ง 57 ราย จำแนกเป็นเพศชาย 32 ราย (56.14%) เพศหญิง 25 ราย (43.86%) โดยมีปัจจัยเสี่ยง ระยะแรก จากการไปเที่ยวสถานบันเทิง ทำงานในสถานบันเทิง ต่อมาปัจจัยเสี่ยงจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในครอบครัวเดียวกัน หรือเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน และปัจจุบันเป็นการเดินทางกลับจากพื้นที่ควบคุมโรค ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค จ.แม่ฮ่องสอน (ศปก.จ.มส.)สูงสุดและเข้มงวดใน 10 จังหวัด โดยมีการติดเชื้อและขอเข้ามารับการรักษา เนื่องจากโรงพยาบาลในพื้นที่ไม่มีเตียงว่าง รองรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล

นพ.เอกชัย คำลือ นายแพทย์สาธารณสุข จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จ.แม่ฮ่องสอน มีระบบการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคที่เข้มแข็ง ดังเช่น ในกรณีการตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 2 รายในวันนี้ ที่ตรวจพบจากการตรวจคัดกรองที่จุดตรวจก่อนเข้าอำเภอ หมู่บ้าน นอกจากนี้ ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อออนไลน์ว่า มีผู้ป่วยยืนยันต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ที่ได้รับการตรวจยืนยัน รักษา มาแล้วระยะหนึ่ง แต่ยังกักตัวไม่ครบ 14 วัน

ได้หลบหนีกลับมาบ้าน ที่บ้านกองลอย อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ โดยรถตู้โดยสารเส้นทาง เชียงใหม่-แม่สะเรียง และมีประชาชนที่ร่วมเดินทางมาด้วย จัดเป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง อยู่ในเขตพื้นที่ อ.แม่สะเรียง และอ.สบเมย จำนวน 12 ราย สามารถติดตามได้ 11 ราย ตรวจหาเชื้อได้แล้ว 4 ราย ผลการตรวจไม่พบเชื้อ ที่เหลืออีก 7 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ ทั้งหมดได้รับการควบคุมไว้สังเกต เป็นระยะเวลา 14 วัน ดังนั้นจึงอยากขอร้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ให้ความร่วมมือ ช่วยกันสอดส่อง ดูแล ผู้เดินทางกลับจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รายงานให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อติดตามคุมไว้สังเกต และให้ไปรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังโรงพยาบาลใกล้บ้านต่อไป

นพ.ทศพล ดิษฐ์ศิริ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นมา โดยในระยะที่สถานการณ์การเกิดโรคในภาพรวมของประเทศ และมีการเสียชีวิตของกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ การบริหารจัดการวัคซีนในระยะนี้ จะเน้นประชาชนกลุ่มเสี่ยง 3 กลุ่ม คือ 1.) กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป และ 2.) กลุ่มบุคคลที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังระยะ 5 โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างเคมีบำบัด/รังสีบำบัด/ภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ที่มีน้ำหนัก มากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัม/ตารางเมตร และ 3.) กลุ่มบุคลากรทางการศึกษา

จนถึงขณะนี้มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีน จำนวนรวม 19,227 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 13,483 ราย และฉีดครบ 2 เข็ม จำนวน 6,410 ราย สำหรับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว และผู้ที่มีความประสงค์จะขอรับการฉีดวัคซีน สามารถติดต่อที่โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน โดยนำบัตรประชาชน หรือบัตรที่ทางราชการออกให้ นำไปแจ้งเพื่อลงทะเบียน


ทศพล / แม่ฮ่องสอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น