เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2564 ที่ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน และ นายแพทย์สาริกข์ พรหมมารัตน์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลลำพูน ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ของจังหวัดลำพูน พบรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมจำนวน 2 ราย และรับผู้ป่วยมารักษาจากจังหวัดอื่น จำนวน 3 ราย ทำให้จังหวัดลำพูนมียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน-8 กรกฎาคม สะสม จำนวน 318 ราย อยู่ระหว่างการรักษา จำนวน 17 ราย รักษาหายแล้ว จำนวน 295 ราย เสียชีวิตสะสม 6 ราย
นายแพทย์ชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลลำพูน มีทั้งหมด 17 ราย มีผู้ที่มีอาการหนักอยู่ จำนวน 1 ราย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ส่วนอีก 7 รายเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในระดับสีเหลืองคือมีอาการรุนแรงขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนที่เหลือเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มสีเขียว
“ในส่วนข้อสังเกตในการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อมาจากนอกพื้นที่จังหวัดลำพูนหรือมาจากต่างจังหวัด จึงขอเน้นย้ำให้ทุกชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ช่วยกันตรวจสอบและเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดงที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดลำพูน หากพบผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมก็นำผู้ป่วยเข้าสู้ระบบการเฝ้าระวังรวมถึงระบบการรักษาต่อไป สำหรับผู้ประกอบการที่ให้บริการสำหรับที่พัก อาทิ โรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ หอพัก จะต้องมีการเข้มงวดในการซักประวัติและรายงานสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเพื่อเป็นการเฝ้าระวังในเบื้องต้น ส่วนผู้ประกอบการเองก็ควรที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างจากผู้ที่เดินทางมาเข้าพัก หมั่นล้างมือบ่อยๆ เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง หากผู้ที่เดินทางมาพักเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ประกอบการเองก็จะกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทันที”
สำหรับวัคซีนโควิด-19 โรงพยาบาลลำพูนได้มีการเลื่อนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ภายในครึ่งเดือนแรกของเดือนเดือนกรกฎาคม โดยจะมีการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 วัน คือวันที่ 9 กรกฎาคม และวันที่ 17 กรกฎาคม สามารถตรวจสอบดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจเฟสบุ๊ค ของงานประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลลำพูน..นายแพทย์ชำนาญการพิเศษฯ กล่าวในที่สุด
ร่วมแสดงความคิดเห็น