ชาวบ้าน เดือดร้อนคนเร่ร่อน มาจากถิ่นอื่นกางผ้าใบนอนริมทาง ไม่ป้องกันตัว ไม่สวมหน้ากากอนามัย หวั่นแพร่เชื้อโควิด

ช่วงสายวันนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานขอกำลัง จากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.แม่ปิง เข้าควบคุมตัว ชายเร่ร่อนสูงวัย อายุประมาณ 70 ปี ที่มาอาศัยหลับนอนอยู่ริมถนนหน้าโรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ ถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง (ขาออกเมือง) ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่ก่อนหน่านี้ทางเจ้าหน้าที่ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีคนเร่ร่อนมาอาศัยอยู่ข้างทาง โดยไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย และเป็นคนเดินทางมาจากถิ่นอื่น จึงเกรงว่าจะนำเชื้อโควิด-19 มาแพร่ระบาดในชุมชน ประกอบกับมีชาวบ้านบางส่วนเกิดความสงสารได้นำเต็นท์ผ้าใบมากางบังช่วยบังแดดบังฝนให้ และยังนำน้ำและอาหาร ไปให้ชายคนดังกล่าวอีกด้วย

ต่อมา หลังจากที่ได้รับแจ้ง น.ส.อรพรรณ จิตจูน เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้ง ก็พบชายคนดังกล่าวอยู่ริมทางจริง ในสภาพร่างกายโทรมนอนอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการพูดคุย แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมพูดคุยด้วย และได้ถือไม้เท้าเดินหนี เมื่อเจ้าหน้าที่จะเข้าใกล้ก็จะใช้ไม้เท้าทำร้าย ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาควบคุมตัวชายคนดังกล่าว

ขณะที่ภายหลัง ทางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ได้มีการสวมถุงมือ และวางแผนเดินปรี่ไปที่เต็นท์ของชายเร่ร่อนคนดังกล่าว โดยตำรวจรีบคว้าไม้เท้า ออก จากมือของชายเรร่อนก่อน เพื่อไม่ให้ใช้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้ และนำตัวขึ้นรถ ตำรวจนำไปส่งที่โรงพยาบาลสวนปรุง กรมสุขภาพจิตจังหวัดเชียงใหม่ โดยชายดังกล่าวไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน น.ส.อรพรรณ จิตจูน เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของชายดังกล่าว นั้นยังไม่ชัดเจนเนื่องจากทางศูนย์เพิ่งได้รับแจ้งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ จึงได้เข้ามาตรวจสอบ แต่ชายดังกล่าวไม่ยอมคุยด้วย อีกทั้งยังไม่ยอมให้คนเข้าใกล้อีกด้วย เวลาเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยด้วยแกก็จะเดินหนี และแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดไม่ยอมให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามายุ่ง ซึ่งในส่วนของการดำเนินการนั้น เบื้องต้นจะนำตัวส่งไปรักษาทางจิตเวชก่อนที่โรงพยาบาลสวนปรุงเชียงใหม่ และก็จะทำการสืบเสาะหาญาติพี่น้อง ถ้าหากไม่มีญาติเราก็จะได้วางแผน ในการหาที่อยู่ให้ต่อไป

ส่วนในเรื่องของคุณลุงจะติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่นั้นยังไม่รู้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ของเราในระหว่างเข้าไปช่วยเหลือนั้น ต้องป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน ซึ่งทางโรงพยาบาลก็มีมาตรการอยู่แล้ว ก่อนที่จะรับตัวคนไข้ไปรักษา เพราะจะมีการตรวจคัดกรองหาเชื้อก่อนตามขั้นตอนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น