ลำไยผลผลิตปีนี้ กว่า 6 แสนตัน ชาวสวนมีทั้งลุ้นราคา และหันมาลุยตลาดออนไลน์

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่ากรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ๊ตส์ บอร์ด) สรุปผลการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2564 ประจำฤดูกาลผลิตพร้อมแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ (ลำไย) เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านราคา ซึ่งผลผลิตลิ้นจี่ ปีนี้มีปริมาณทั้งหมด 30,716 ตัน เก็บเกี่ยวผลผลิตหมดแล้ว ผลการบริหารจัดการลิ้นจี่ของทั้ง 4 จังหวัด ที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญในภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน มุ่งเน้นกระจายสู่ตลาด ซึ่งปริมาณผลผลิตคงเหลือ 27,952 ตัน น้อยกว่าข้อมูลประมาณการผลผลิต 2,764 ตัน ในภาพรวมส่วนใหญ่บริโภคในประเทศ 23,620 ตัน หรือร้อยละ 84.51 แปรรูป 2,131 ตัน หรือร้อยละ 7.62 และ ส่งออก 2,201 ตันหรือร้อยละ 7.87

ขณะนี้เป็นช่วงที่ลำไยทางภาคเหนือและผลไม้ทางภาคใต้ (ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง) กำลังทยอยให้ผลผลิตออกสู่ตลาด ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 4/2564 ที่มีนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วย รมต.เกษตรฯ เป็นประธาน ได้อนุมัติแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ (ลำไย) ปี 2564 “โดยประมาณการว่าจะมีผลผลิตจำนวน 683,435 ตันใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย น่าน พะเยา ลำปาง แพร่ และตาก ซึ่งผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด มิ.ย-ก.ย.นี้ แผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ และใต้ก็จะมีการกระจายภายในประเทศเป็นหลัก ด้วยวิธีการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตผ่านผู้ประกอบการ (ล้งภายในประเทศ) วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร โมเดิร์น เทรด ไปรษณีย์/ตลาดออนไลน์ ตลาดค้าผลไม้ภายในจังหวัด การจำหน่ายตรงผู้บริโภค การบริโภคภายในครัวเรือน จัดงานประชาสัมพันธ์และอื่นๆ เช่น รถเร่ ตลาดริมทาง ฯลฯ รวมถึงให้มีการแปรรูปและส่งออก”

ทั้งนี้ แผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ (ลำไย) จะสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2564– 2566 ตามมติคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 1/2564 โดยจังหวัดวางแผนการบริหารจัดการผลไม้แบบเบ็ดเสร็จด้วยตัวเอง ผ่านกลไกของคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) ในเชิงคุณภาพสอดคล้องตามยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. 2558 – 2564 และในเชิงปริมาณเน้นการจัดสมดุลอุปสงค์และอุปทาน ครอบคลุมระยะก่อนเก็บเกี่ยว ระยะเก็บเกี่ยว และระยะหลังเก็บเกี่ยว ในทิศทางเดียวกัน

ด้านกลุ่มเกษตรชาวสวนลำไย ภาคเหนือ ( เชียงใหม่-ลำพูน ) เปิดเผยว่า ผลผลิต ปีนี้เป็นไปตามคาดคือ น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งลำไยจะมีวงจรแบบนี้ หากปีที่ผ่านมาผลผลิตมาก ปีนี้ก็จะน้อยลง ส่วนเรื่องกลไกตลาด ราคานั้น หากไม่สามารถ บริหารจัดการล้งรายใหญ่ๆที่กุมตลาด กำหนดราคาขึ้นลงได้ในแต่ละวัน ” ชาวสวนก็ต้องลุ้นราคา มีสภาพแบบนี้ ส่วนที่ขายเหมาสวนนั้น ต้องวัดดวง เพราะ การทิ้งมัดจำ กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เนื่องจาก พ่อค้ามองว่า ราคาที่เปิดออกมาคุ้มทุน หรือไม่ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงช่วงโควิดนั้น ปัญหาหลักๆจะมีเรื่องแรงงานรายวัน ค่าจ้างสูง และแหล่งรับซื้อ(ล้ง) เปิดราคาแต่ละวันอย่างไร บางวัน หากจะคาดหวังราคา ที่คุ้มทุนผลิต 18 บาท/กก.นั้น ถ้าเน้นทำลำไยคุณภาพเกรดเอเอ.มีขนาดจัมโบ้ที่ตลาดส่งออกต้องการ ก็มีลุ้นกำไร แต่ส่วนใหญ่แล้ว เกรด เอ.เกรดบี.ถ้าเกรดซี.แล้วบางล้งไม่รับก็มี และรูปแบบการตลาด ส่วนหนึ่ง จะเน้นขายผ่านออนไลน์ ส่งทั่วประเทศ ซึ่งมีบริการส่งด่วน สนับสนุนการขนส่งผลผลิตรวดเร็วมาก ในปัจจุบัน ราคาก็จะราวๆ 25-30 บาท/กก. เป็นตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมกันขณะนี้ ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น