(มีคลิป) เก๋งชนจยย.กลางสี่แยก เมืองน่าน

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 254 เวลา 20 30 น. ร.ต.อ.ชวลิต เทรักสี พงส.สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนันทบุรีว่า มีเหตุรถยนต์ชนกันที่กลางสี่แยกข้างวัดหัวข่วง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน รุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบทีม จนท.กู้ชีพมูลนิธิเพื่อผู้ยากไร้และศพไร้ญาติจังหวัดน่าน (องค์กรสาธารณะประโยชน์ ) นักข่าวสาว พระครูวัดข้างค้ำ ช่วยกันพัดพยายามเรียกชื่อตลอดการช่วยเหลือเพื่อให้ได้สติ และทีมกู้ชีพ ศูนย์นเรนทรน่าน กำลังเร่งให้การช่วยเหลือนางแต้ม จินะสิทธิ์ อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 28/4 บ้าน พวงพยอม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ซึ่งถูกรถเก๋งยี่ห้อ มาสด้า 3 สีเทา ทะเบียน กจ 6264 น่าน ชนจนไส้ทะลักขาสี่แยกดังกล่าวรับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทีมกู้ชีพเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ณ จุดเกิดเหตุก่อนนำส่งโรงพยาบาลน่านเพื่อรักษาต่อไป

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสภาพด้านหน้าด้านซ้ายชนได้รับความเสียหายสามารถขับเคลื่อนได้ ซึ่งมี นาย อัยย์ญดา มหายศนันท์  อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 8 บ้านดู่เหนือพัฒนา  หมู่ 12 ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นคนขับและพบรถจยย.ยี่ห้อ  honda wave 125 สีน้ำเงิน ทะเบียน กพธ 962 น่าน ภาพด้านหน้าพังยับ จึงได้ถ่ายรูปและบันทึกรายละเอียดในที่เกิดเหตุนำรถไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองน่าน

จากการสอบถามนายอัยย์ญดา ซึ่งเป็นคนขับเล่าว่าได้ขับรถออกจากบ้านมาขับผ่านหน้าวัดหัวข่วงเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางแยกต้นได้เลี้ยวขวาข้างหลังวัดช้างค้ำซึ่งตนเองมองไม่เห็นรถจยย.คู่กรณีขับมาทางน้ำมันเชลล์ มารู้ตัวอีกครั้งหนึ่งปรากฏว่ารถได้ชนกันอย่างแรงจนกระทั่งมีพระวัดช้างค้ำและพลเมืองดีออกมาช่วยจึงพบว่านางแต้ม จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพได้นำส่งโรงพยาบาลน่านและจากการสอบถามลูกชายของนางแต้ม ทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ ขับรถจยย.ออกจากบ้านเพื่อมาซื้ออาหารที่ตลาดโต้รุ่งจะนำไปรับประทานที่บ้านแต่มาประสบอุบัติเหตุเสียกร จนกระทั่งมีญาติได้โทรศัพท์ไปแจ้งว่าแม่ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงได้รีบออกมาดูที่เกิดเหตุและติดตามไปที่โรงพยาบาลน่าน

ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ในบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งดูจากสภาพการชนรถยนต์ทั้ง 2 คัน น่าจะขับมาด้วยความเร็ว

ต่อมาทาง ร.ต.อ.ชวลิต เทรักสี   พงส.สภ.เมืองน่าน ได้นำคนขับรถยนต์  มาเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายว่ามีการดื่มสุราในระหว่างขับรถยนต์หรือไม่เพื่อไว้เป็นหลักฐานในประกอบรูปคดีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น