ลำพูนพบผู้ติดเชื้อโควิด – 19 รายใหม่ 5 ราย และรับผู้ป่วยชาวลำพูน กลับมารักษาในพื้นที่ จำนวน 3 ราย

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2564 ที่ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นพ.สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน นพ.สาริกข์ พรหมารัตน์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลลำพูน ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ของจังหวัดลำพูน พบรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมจำนวน 5 ราย รับผู้ป่วยรักษาจากจังหวัดอื่นจำนวน 3 ราย ทำให้จังหวัดลำพูนมียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน – 16 กรกฎาคม 2564 สะสม 361 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 55 ราย โดยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลำพูน จำนวน 40 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม สาขาเวียงยอง จำนวน 14 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลี้ จำนวน 1 ราย รวมทั้งหมด 55 ราย ผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบ จำนวน 31 ราย ผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง 8 ราย ผู้ป่วยรักษา หายแล้ว 300 ราย เสียชีวิตสะสม 6 ราย

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน จากการสอบสวนพบว่า ช่วงแรกเริ่มที่มีอาการป่วย เป็นไข้ นั้นยังไม่ได้ไปพบแพทย์แต่ซื้อยามารับประทานเอง จนอาการไม่ดีขึ้น จึงไปตรวจหาเชื้อโควิด – 19 จนพบว่ามีผลเป็นบวก จึงขอความร่วมมือประชาชนที่รู้สึกว่าตนเองหรือ บุคคลในครัว มีอาการป่วย เป็นไข้ หรือมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ให้ไปพบแพทย์ และตรวจหาเชื้อโควิด – 19 เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า โรงพยาบาลลำพูนได้เตรียมสถานที่ สำหรับฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่ลงทะเบียน ที่อาคาร 100 ปี โรงพยาบาลลำพูน โดยผู้ที่มีนัดฉีดวัคซีนในวันเสาร์-อาทิตย์ ในเดือนกรกฎาคมนี้ ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนในวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 นี้ สำหรับเวลาในการนัดฉีดวัคซีน สามารถติดตามได้ที่ Facebook ประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลลำพูน

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้กล่าวชื่นชม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้ดำเนินการ ตามมาตรการคัดกรองประชาชนที่มีความประสงค์จะกลับภูมิลำเนา ได้เป็นอย่างดี โดยมีการตั้งจุดนัดพบ และคัดกรองภายในหมู่บ้าน ทำให้สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากพื้นที่เสี่ยงสูงสุดเข้ามายังจังหวัดลำพูน มีจำนวนที่ลดลง

ในขณะเดียวกัน จังหวัดลำพูนได้เน้นการป้องกันการติดเชื้อ ภายในบริษัท ห้างร้าน โรงงาน ซึ่งผู้บริหารสถานประกอบการจะต้องมีการป้องกัน คัดกรองกลุ่มเสี่ยงก่อนเข้าทำงานอย่างเข้มงวด เนื่องจากหากมีการติดเชื้อ อาจมีความเสี่ยงที่อาจแพร่กระจายสู่โรงงาน ชุมชน และบุคคลใกล้ชิด ส่วนการป้องกันติดเชื้อในครอบครัว จะต้องเน้นมาตรการกักตัว อย่างมีคุณภาพ ( Home Quarantine ) หากครอบครัวใดไม่มีความพร้อมของพื้นที่ใช้สำหรับกักตัว สามารถแจ้ง ผู้ใหญ่บ้าน อสม. เพื่อประสานไปยังนายอำเภอ เพื่อดำเนินการจัดหาสถานที่สำหรับกักตัวที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยในครอบครัว และชุมชน

ร่วมแสดงความคิดเห็น