ราษฎรคนไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ขอให้หน่วยงานที่ดินเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดิน หลังถูกนำที่ดินไปขายให้กับต่างด้าวชาวพม่า ที่มีบัตรประชาชนปลอม

ราษฎรคนไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ขอให้หน่วยงานที่ดินเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดิน หลังถูกนำที่ดินไปขายให้กับต่างด้าวชาวพม่า ที่มีบัตรประชาชนปลอม โดยมีเจ้าหน้าที่ ที่ดินจังหวัดแม่ฮ่องสอน จดบันทึกข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารการรับโอนมรดก วิงวอนผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการตรวจสอบและเพิกถอนการได้มาซึ่งมรดกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.45 น. นายธนโชติก์ รุ่งเหมันต์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/15 หมู่ 8 ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อขอวิงวอนให้ นายสิธิชัย จินดาหลวง ผวจ.แม่ฮ่องสอน สั่งตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดแม่ฮ่องสอน จดบันทึกข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารรับโอนมรดกของยายตนเอง และมีบุคคลนำที่ดินมรดกดังกล่าว ไปขายให้กับต่างด้าวชาวพม่า ที่มีบัตรประชาชนปลอม นายธนโชติก์ รุ่งเหมันต์ ระบุว่า เดิมทรัพย์สินเป็นของนาย คำต่าน (ไม่มีนามสกุล) ประกอบด้วย โฉนดที่ดินเลขที่ 5539 เล่ม 56 หน้า 39 ระวาง 4541II8610-16 เลขที่ดิน 31 หน้าสำรวจ 459 บ้านป่าลาน หมู่ที่ 3ตำบลห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เนื้อที่ 80.8 ตรว. , โฉนดที่ดินเลขที่ 3696 เล่ม 37 หน้า 96 ระวาง 4541II8810 เลขที่ 9 หน้าสำรวจ 6 ตำบลห้วยโป่ง เนื้อที่ 4 ไร่ 2 งาน 40.2 ตรว. หนังสือรับรองการทำประโยชน์ สาระบบ 118 เนื้อที่ 2 ไร่ เล่ม 8 หน้า 78 หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

นางซื้อ โนวรรณ เป็นบุตรคนโต และได้สมรส กับ นายบุญศรี โนวรรณ เมื่อวันที่ 8 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2521 ไม่มีบุตรร่วมกัน (เอกสารแนบที่ 4) ต่อมานายบุญศรี โนวรรณ ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 26 เดือน มีนาคม พ.ศ.2536 (เอกสารแนบที่ 5) หลังจากนายบุญศรี โนวรรณ ได้เสียชีวิตลง บุตรของนายบุญศรี(ลูกเลี้ยง) คือ 1.นายขวัญแก้ว โนวรรณ 2.นายสมพล โนวรรณ 3.นางกิมเหรียญ กูนา บุคคลทั้งสามคนนี้ ได้พาตัวนางซื้อ โนวรรณ มาที่สำนักงานที่ดินจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 7 เดือนเมษายน พ.ศ.2536 เพื่อทำการเพิ่มชื่อของตน เพื่อรับมรดกของนายบุญศรี โนวรรณ โดยไม่มีการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก เพราะนายบุญศรี โนวรรณ ไม่ได้ทำพินัยกรรม และ นางซื้อ โนวรรณ ไม่สามารถอ่านออก และ เขียนได้ โดยบุคคลทั้งสาม ได้เพิ่มชื่อของตนลงในโฉนดที่ดิน เลขที่ 5539 และ โฉนดที่ดิน เลขที่ 3696

หลังจากนั้นบุคคลทั้งสาม ได้ทำการขับไล่พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกันกับ นางซื้อ โนวรรณ มิให้ไปทำประโยชน์ในที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว และอ้างว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของพวกตน เพราะได้รับมรดกจาก นายบุญศรี โนวรรณ(บิดา) บุคคลทั้งสามต่างด่าทอ กีดกัน และกล่าวหาว่าร้ายพี่น้องรวมทั้งญาติๆของ นางซื้อ โนวรรณ ตลอดเรื่อยมา

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 นางอรทัย บุญมาลา(บุตรของนางกิมเหรียญ กูนา) และสามี นายจำรัส บุญมาลา(อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านป่าลาน) ทั้งสองได้พาตัวนางซื้อ โนวรรณ ไปทำพินัยกรรมฝ่ายเมือง โดยมีพยานบุคคล 2คน คือ 1.นายเสถียร ขยันดี 2.นายสำราญ นิยมชาติ ซึ่งบุคคลทั้งสองเป็นญาติของนางอรทัย บุญมาลา โดยพินัยกรรมฝ่ายเมืองได้ทำขึ้นมาเพียงฉบับเดียวจึงไม่มีคู่ฉบับอยู่ที่ว่าการอำเภอเมือง และได้มีการจัดทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองโดย นายประทีป พันธ์เสนา ปลัดอำเภอ
ต่อมา นางซื้อ โนวรรณ ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 25 เดือน กันยายน พ.ศ.2561 (เอกสารแนบที่ 8) ข้าพเจ้าจึงได้ยื่นต่อศาลขอแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของ นางซื้อ โนวรรณ ในวันที่ 11 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2564

หลังจากที่ข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ข้าพเจ้าได้ตรวจทรัพย์สินของ นางซื้อ โนวรรณ (เอกสารแนบที่ 10) ทั้งหมดพบว่า นางอรทัย บุญมาลา ได้ทำประโยชน์ในที่ดิน น.ส3 เลขที่ 118 เนื้อที่ 2ไร่ ซึ่งเกินพื้นที่ตามความเป็นจริง และนายจำรัส บุญมาลา สามีของนางอรทัย บุญมาลา ได้ทำการบุกรุกเขตพื้นที่ป่าซึ่งติดกับที่ดินแปลงดังกล่าวประมาณ 3ไร่ และนางอรทัย บุญมาลา ได้ร่วมกับนายขวัญแก้ว โนวรรณ นายสมพล โนวรรณ และ นางกิมเหรียญ กูนา ร่วมกันขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง(บ้าน) โดยในพินัยกรรมฝ่ายเมืองไม่ได้ระบุว่า นางอรทัย บุญมาลา ได้มรดกในที่ดินแปลงเลขที่ 5539 และบุคคลทั้งหมดได้ร่วมกันขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง(บ้าน) ให้กับ นางสาวมณิฎสรา ปิติฤทธิไกร ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวถือเอกสารบัตรประชาชนไทย ข้าพเจ้า และภรรยา นางอนงค์นาค รุ่งเหมันต์ เคยสอบถามมารดา ของนางสาวมณิฎสรา ปิติฤทธิไกร ชื่อนางเจ่งละ และนายหลาว(พ่อเลี้ยง) บอกกับภรรยาข้าพเจ้าว่า นางสาวมณิฎสรา ปิติฤทธิไกร เกิดที่ประเทศพม่า และเข้ามาโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ และข้าพเจ้าได้นำหมายเลขบัตรประชาชน หมายเลข 8580176012177 และที่อยู่ เลขที่ 100 (25)พ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ปรากฏในบัตรของนางสาวมณิฎสรา ปิติฤทธิไกร ไปตรวจสอบอยู่หลายครั้ง ไม่ปรากฏว่าเป็นบุคคลมีสัญชาติไทยแต่อย่างใด และไม่มีรายชื่อในสาระบบของคนไทยอีกด้วย

ข้าพเจ้า และ ภรรยา ได้ไปยังบ้านป่าลาน หมู่ 3 ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามทรัพย์สินของ นางซื้อ โนวรรณ ตามบัญชีทรัพย์สินทั้งหมด แต่ถูกกลุ่มบุคคลทั้งหมดของนางอรทัย บุญมาลา ด่าทอ พูดจาใส่ร้าย และจะไม่คืนทรัพย์สินให้ ซ้ำยังถูกข่มขู่ต่างๆนาๆ จึงไม่สามารถนำทรัพย์สินเหล่านั้นมาจัดสรรปันส่วนให้กับญาติพี่น้องได้ ข้าพเจ้าจึงได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี กับ นางอรทัย บุญมาลา และ นางสาวมณิฎสรา ปิติฤทธิไกร ในข้อหายักยอกทรัพย์ และ รับของโจรนางอรทัย บุญมาลา ได้แจ้งกับทางเจ้าพนักงานสอบสวนว่า โฉนดที่ดินเลขที่ 3696 ไม่ได้อยู่กับตน เพราะจนถึงปัจจุบันยังหาไม่พบ ข้าพเจ้าจึงได้ไปแจ้งความเอกสารสูญหายที่ สภ.เมือง และไปขอคัดเอกสารเพิ่มจากสำนักงานที่ดิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้พบว่า ทางสำนักงานที่ดินได้จดบันทึกข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารการรับโอนมรดกของ นางซื้อ โนวรรณ นายขวัญแก้ว โนวรรณ นายสมพล โนวรรณ และ นางกิมเหรียญ กูนา โดยไม่พบว่าบุคคลทั้งหมดนี้ได้ยื่นต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และที่ดินแปลงดังกล่าวไม่พบว่ามีสิ่งปลูกสร้าง(บ้าน) ลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนยกสูงหนึ่งหลัง เลขที่ 58 พื้นที่กว้าง 5 เมตร ยาว 7 เมตร ซึ่งสร้างมาแล้วประมาณ 70ปี แต่อย่างใด ซึ่งขัดแย้งกับความเป็นจริงอย่างชัดเจน เพราะบ้านไม้ดังกล่าวตั้งอยู่ในที่ดินโฉนดแปลงเลขที่ 5539 ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านป่าลาน ซึ่งอยู่ห่างกับที่ดินโฉนดแปลงเลขที่ 3696 หลายกิโลเมตร

ข้าพเจ้าใคร่ขอความเป็นธรรม และขอความเมตตาจากท่าน ขอให้ท่านได้ดำเนินการตรวจสอบ และ ดำเนินการเพิกถอนการได้มาโดยมิชอบของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เพราะทางครอบครัว และญาติพี่น้องได้เสียสิทธิในการทำประโยชน์ในที่ดินของปู่ย่า ตายาย มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 เนื่องจากกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล และใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง ข้าพเจ้าจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ขอให้ท่านพิจารณา และให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของข้าพเจ้าด้วยเทอญฯ

ร่วมแสดงความคิดเห็น