(มีคลิป) ลุงวัย 67 ปี เดินทางมาจาก อ.ลี้ จ.ลำพูน ออกตามหาลูกสาวขับรถสี่ล้อแดงในเชียงใหม่ เผยถูกคนพม่าทำร้าย ชิงเอาเงินและมือถือไป

วันที่ 27 ก.ค.64 ทางผู้สื่อข่าวได้ทราบเรื่องราวบนโซเชียล ซึ่งได้มีการแชร์ภาพลุงคนหนึ่งนอนริมทาง บริเวณประตูสวนดอก คูเมืองด้านใน อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้มีผู้พบเห็นเข้าไปสอบถาม และทราบจากทางเจ้าตัวระบุว่า ได้เดินทางมาตามหาลูกสาวอายุประมาณ 30 กว่าปี ที่มาทำงานขับรถสี่ล้อแดงที่จ.เชียงใหม่ แต่จากการที่ทางเจ้าตัวไม่มีเงินเช่าห้องพัก และโรงแรมจึงได้อาศัยนอนริมทาง และถูกคนรุมทำร้ายชิงทรัพย์สินรวมทั้งมือถือไป ทำให้ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อกับญาติหรือคนรู้จักได้ อีกทั้งยังไม่มีเงินเดินทางกลับ และเงินซื้อข้าวกิน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีอาการบาดเจ็บอีกด้วย ซึ่งหลังจากมีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าวแล้ว ได้มีคนแชร์เรื่องราวดังกล่าวพร้อมทั้งขอความช่วยเหลือให้กับทางลุงคนดังกล่าว อีกทั้งขอให้ทางเจ้าหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องราวในครั้งนี้

ขณะที่ต่อมาในช่วงค่ำวันนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจที่บริเวณดังกล่าวตามที่มีการแชร์ภาพบนโซเชียล ก็พบว่ามีชายในภาพนอนอยู่ที่บริเวณดังกล่าวจริง โดยจากการสอบถามทราบชื่อคือ นายสายชล ปองแก้ว อายุ 67 ปี ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า ได้เดินทางนั่งรถมาจาก อ.ลี้ จ.ลำพูน มาลงที่บริเวณสะพานเหล็ก เพื่อมาตามหาลูกสาว ทราบชื่อว่า น.ส.หยาดพิรุณ ธรรมชัย อายุประมาณ 30 กว่าปี ที่ทำอาชีพขับรถสี่ล้อแดงอยู่ใน จ.เชียงใหม่ โดยตอนที่มาถึงเชียงใหม่ เจ้าตัวไม่มีเงินที่จะเช่าโรงแรมหรือที่พัก จึงอาศัยนอนตามข้างทางบริเวณด้านหน้าสวนบวกหาด แต่ได้มีกลุ่มคนต่างด้าวมาทำร้าย และชิงทรัพย์ทั้งเงินและโทรศัพท์มือถือไป และตนก็ได้รับบาดเจ็บ และได้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จนตอนนี้ก็ผ่านมาประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว ส่วนตอนนี้ตนก็ไม่มีเงินจะเดินทางกลับบ้าน รวมทั้งซื้อข้าวซื้อน้ำกิน และตอนนี้เหลือเงินติดตัวเพียง 3 บาท ทำให้ต้องมานอนที่บริเวณนี้ทุกวัน

นายสายชล บอกอีกว่า จากการติดตามหาลูกสาวตอนนี้ก็ทราบมาว่า ลูกสาวที่ขับรถสี่ล้อแดงนั้น ก็ได้เดินทางไปอยู่กับสามีที่ จ.นครสวรรค์ แล้วเนื่องจากการที่ขับรถสี่ล้อแดงแต่ไม่มีคนใช้บริการ ส่วนตนนั้นตอนนี้ก็เพียงแค่อยากเดินทางกลับบ้านเพียงเท่านั้น เพราะไม่อยากมานอนลำบากอยู่ริมทางแล้ว อีกทั้งตอนนี้ตนก็บาดเจ็บที่ขา และยังปวดเนื้อปวดตัว ทำให้เดินเหินลำบาก จึงต้องมาอาศัยนอนริมทางบริเวณนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนเห็นตนนอนที่บริเวณนี้ได้เข้ามาช่วยเหลือซื้อน้ำ ซื้อข้าวมาให้บ้าง และหาผ้ามาให้ห่ม อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้ตนก็ยังคงต้องอาศัยนอนอยู่บริเวณนี้ และอยากได้ความช่วยเหลือเพื่อพาตนกลับบ้าน

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น