คุมตัวหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทรัพย์แบงค์ สารภาพหาเงินใช้หนี้ ตรวจค้นไม่พบอาวุธปืนที่อ้างใช้ก่อเหตุ คาดเป็นปืนทิพย์ที่คนร้ายพูดข่มขู่ เจ้าหน้าที่และ รปภ.ธนาคาร

คืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ ตรงข้ามกับสนามกอล์ฟลานนา ถสายโชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยทำทีมาเบิกเงินแล้วเขียนข้อความลงในเช็คธนาคาร ก่อนนำไปยื่นข่มขู่พนักงานของธนาคารดังกล่าว บังคับให้พนักงานเปิดลิ้นชัก แต่ทางพนักงานขัดขืนจึงปีนข้ามเคาท์เตอร์แล้วค้นลิ้นชัก ได้เงินสดติดมือไปประมาณหมื่นกว่าบาท แล้วขับรถหลบหนีไปตามเส้นทาง อ.แม่ริม โดยหลังเกิดเหตุทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเร่งติดตามจับกุมตัวตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดในช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ หลังการดำเนินการสืบสวนติดตามตัวคนร้านก่อเหตุรายนี้ ทางเจ้าหน้าที่สามารถทำการจับกุมตัวได้อย่างทันควัน หลังคนร้ายก่อเหตุรายนี้หลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านพักใน ต.สบเปิง อ.แม่แตง พร้อมของกลางกระเป๋าสะพาย ยี่ห้อคอนเวิส สีขาว และเงินสดที่ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ไปจากธนาคารดังกล่าว แต่ไม่ครบตามจำนวนที่ได้เอาไป โดยทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้คือ นายกสิกร  อายุ 24 ปี เป็นชาว ต.สบเปิง อ.แม่แตง หลังจากนั้นได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหามายัง สภ.ช่างเผือก เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง

โดยในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการควบคุมตัวมายัง สภ.ช้างเผือก แล้วนั้น ทางด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้เข้าดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกับทาง นายกสิกร วงษ์นคร ผู้ต้องหา ซึ่งเบื้องต้นทางผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องหนีสิน ต้องการหาเงินไปใช้หนี้ และยอมรับว่าได้นำเงินบางส่วนไปใช้แล้วหลังก่อเหตุ ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาระบุและข่มขู่ขณะก่อเหตุนั้น จากการตรวจยึดของกลางก็ไม่พบว่ามีอาวุธปืนแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าอาวุธปืนที่คนร้ายระบุนั้นน่าจะเป็นเพียงการข่มขู่ให้ทางพนักงานและเจ้าหน้าที่ รปภ.ของธนาคารเกิดความหวาดกลัวเท่านั้น โดยในส่วนของข้อเท็จจริง รวมถึงสาเหตุที่ผู้ต้องหากระทำลงไปนั้นจะได้ให้ทางพนักงานสอบสวนของ สภ.ช้างเผือก ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่ทางด้าน สาวพนักงานธนาคารที่ถูกคนร้ายข่มขู่ เล่าว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากโดยในก่อนเกิดเหตุนั้นได้เห็นชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาที่ธนาคารแล้วมานั่งรออยู่นานประมาณ 10-15 นาที แต่ก็ไม่เห็นว่าจะทำอะไร จึงมีพนักงานอีกคนหนึ่งเข้าไปสอบถามซึ่งทางเจ้าตัวระบุว่าจะมาเบิกเงิน ทางพนักงานอีกคนจึงส่งกระดาษสลิปให้กรอกข้อมูล จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้นำกระดาษไปเขียนก่อนที่จะนำมายื่นในช่องที่ตนให้บริการอยู่ แต่เมื่อชายคนนั้นกล่าวยื่นกระดาษที่ระบุข้อความในที่เขียนสลิป ตนก็รู้สึกตกใจ และชายคนดังกล่าวก็ได้บอกกับตนว่าให้เปิดลิ้นชักแต่ตนก็ไม่ยอมเปิดก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเอื้อมมือมาพยามเปิดลิ้นชักด้วยตนเองซึ่งตนเห็นดังนั้นก็พยายามขัดขืน ชายคนนั้นกล่าวจึงได้ปีนข้ามเคาน์เตอร์เข้ามา และพยามเปิดลิ้นชักในช่องของตนแต่ลิ้นชักถูกล็อกไว้จึงวิ่งไปเปิดลิ้นชักที่อยู่ถัดไปอีกสองช่องและนำเงินที่อยู่ภายในลิ้นชักดังกล่าวซึ่งเป็นเงินฝากของลูกค้าวิ่งหลบหนีออกจากธนาคารไป

อย่างไรก็ตามภายหลังการดำเนินการจับกุมและควบคุมตัวผู้ต้องหามายัง สภ.ช้างเผือก แล้วนั้น ทางด้านเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องของธนาคารดังกล่าวได้เดินทางเข้ามาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งชื่นชมที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ อย่างรวดเร็ว สร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับประชาชน