เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่แปลงใหญ่ลำไยบ้านพญาแก้ว หมู่ที่ 4 ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน นายวิบูรณ์ แววบัญฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานงานเปิดงาน “เทศกาลลำไยและของดีเชียงกลาง @ น่าน” ภายใต้กิจกรรมพัฒนาการสร้างมูลค่า การตลาด การประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่สินค้าไม้ผลอัตลักษณ์คุณภาพดีสู่ผู้บริโภค ตามโครงการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร อัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและของดีอำเภอเชียงกลาง ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมทั้ง เป็นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการบริโภคสินค้าผลไม้ในประเทศ ตลอดจน การส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย ตามนโยบายของรัฐบาล โดยนายนายศักดิ์สิทธิ์ ศรีวิชัย เกษตรจังหวัดน่าน กล่าวรายงานฯ นายวิบูรณ์ แววบัญฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธาน กล่าวว่า จังหวัดน่านมีพืชผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพมากมาย โดยเฉพาะลำไย 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาลำไยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแปลงใหญ่ลำไยพญาแก้วได้รับรางวัลในระดับประเทศ และได้มีการพัฒนาต่อยอดมาเรื่อยๆ จังหวัดน่านได้ส่งเสริมในเรื่องของการพัฒนาการเกษตรเชิงคุณภาพ โดยเฉพาะไม้ผลเน้นการพัฒนาเรื่องคุณภาพตั้งแต่กระบวนการผลิตตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยว ส่วนการบริโภคลำไยผลสดต้องมีการคัดเกรด รวมถึงการบริหารจัดการให้ดี แต่เกษตรกรยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก ยังมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยแบบรวบๆ แทนที่จะได้รายได้มากขึ้น กลับทำให้รายได้น้อยลง อาจจะสะดวกในการเก็บเกี่ยว ต้องมีการรณรงค์ในเรื่องนี้มากขึ้นและทำตลาดในเรื่องของลำไยผลสดมากขึ้น
สำหรับการตลาดปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 การตลาดอาจจะไม่ราบรื่นแต่ได้มีการเตรียมการเอาไว้แล้ว ขณะนี้ลำไยจังหวัดน่านออกสู่ตลาดไปแล้วประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในเรื่องผลไม้ต้องช่วยกันพัฒนายกระดับคุณภาพทั้งกระบวนการตั้งแต่เรื่องการผลิต จนกระทั้งการเก็บเกี่ยวและการแปรรูปรวมถึงการตลาด เนื่องจากจังหวัดน่านเป็นจังหวัดทำการเกษตรต้องส่งเสริมเพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีรายได้มากขึ้นจะก่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในจังหวัดให้หมุนเวียนได้เป็นอย่างดี
นายศักดิ์สิทธิ์ ศรีวิชัย เกษตรจังหวัดน่าน กล่าวว่า จังหวัดน่านมีพื้นที่เพาะปลูกไม้ผล ทั้งหมดจำนวน 142,871 ไร่ มีชนิดไม้ผลหลัก คือ ลำไย ในปี 2564 มีพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 65,506 ไร่ ผลผลิตประมาณ 32,861 ตัน มีแหล่งผลิตกระจายอยู่ทุกอำเภอ และอำเภอที่มีพื้นที่เพาะปลูกลำไยจำนวนมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ อำเภอท่าวังผา อำเภอเชียงกลาง และอำเภอเวียงสา โดยช่วงเดือนสิงหาคม ผลผลิตลำไยจะออกสู่ตลาดพร้อมกันเป็นจำนวนมาก
ส่งผลให้ราคาผลผลิตตกต่ำ ประกอบกับสถานการณ์โรคโควิ-19 ทำให้การส่งออกลำไยชะลอตัวลงมาก
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การประกวดลำไยสดช่อคุณภาพ กิจกรรมปั่นจักรยาน ชิม ช้อป สวนลำไยเกษตรกร (ท่องเที่ยวเชิงเกษตร) กิจกรรมสาธิตนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปผลผลิตลำไย
และบรรจุภัณฑ์ กิจกรรมจำหน่ายลำไยคุณภาพ ลำไยสายพันธุ์อีดอ และลำไยสายพันธุ์อีดอพวงทอง ผ่านช่องทางออนไลน์ กิจกรรมฐานการเรียนรู้การผลิตลำไยคุณภาพ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายลำไย โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงกลาง อำเภอเชียงกลาง ท้องที่ ท้องถิ่น องค์กรภาคีเครือข่ายเกษตรกร องค์กรเกษตรกร ภาคเอกชนข้าร่วมงาน ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดน่าน
ร่วมแสดงความคิดเห็น