อย่าแชร์! ข่าวบิดเบือน ธกส. ปล่อยสินเชื่อให้กู้ยืม 50,000 บาท ผ่อนเดือนละ 650 บาท

วันที่ 8 ส.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่ามีการตรวจพบข่าวบิดเบือนเพิ่มเติมอีก 1 กรณี คือ

กรณี ธกส. ปล่อยสินเชื่อให้กู้ยืม 50,000 บาท ผ่อนเดือนละ 650 บาท นั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง แล้ว ยืนยันว่าเป็นข้อมูลบิดเบือน เนื่องจากเป็นการนำข้อมูลของสินเชื่อ 2 ผลิตภัณฑ์มารวมกัน โดย ธ.ก.ส. ขอชี้แจงรายละเอียดที่ถูกต้องของสินเชื่อทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ดังนี้

– สินเชื่อชำระดีมีวงเงิน Smart Cash สำหรับลูกค้าผู้กู้สินเชื่อในโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบมาก่อนแล้ว ที่ชำระหนี้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดและมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการก่อหนี้นอกระบบของลูกค้า โดยสนับสนุนเงินเครดิตหมุนเวียนผ่านบัตร ATM ตามต้นเงินกู้ที่ได้รับชำระหนี้ตามโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบ สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR + (0 ถึง 3) ต่อปี (ปัจจุบัน MRR ร้อยละ 6.50 ต่อปี) ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 12 เดือนนับจากวันกู้

– สินเชื่อเงินด่วน A-Cash เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจําเป็นในครัวเรือน สำหรับเกษตรลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดี โดย ณ วันที่ขอกู้เงินต้องไม่มีหนี้ค้างชําระ และไม่อยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างหนี้ วงเงินกู้สูงสุดรายละ 50,000 บาท สามารถเบิกถอนได้หลายครั้งตามวงเงินที่มีอยู่ อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR ร้อยละ 6.50 ต่อปี) กําหนดชําระคืนไม่เกิน 1 ปี จากวันทําหนังสือสัญญากู้เงิน และส่งดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาได้ ในส่วนของหลักประกันเงินกู้ สามารถจํานองอสังหาริมทรัพย์ หรือใช้บุคคลอย่างน้อย 2 คนค้ำประกันได้

โดยประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลข่าวสารจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กระทรวงการคลัง สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.baac.or.th หรือโทร. 0-2555-0555

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ในกรณีดังกล่าวเป็นการนำข้อมูลของสินเชื่อ 2 ผลิตภัณฑ์มารวมกัน อาจสร้างความสับสนให้ผู้อ่านได้

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

 

 

 

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น