วันที่ 13 ส.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า หลังมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจแบบ ATK จำนวน 40 ราย ในโรงงานอบลำไย ในพื้นที่ อ พาน และต้องนำตัวผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงสูงเข้าสู่กระบวนการกักตัวควบคุมโรค โดยนายกิตติ ชัยดรุณ นอภ.พาน และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอพาน (ศปก.อ.พาน) ออกประกาศกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่บริษัท รียูเนียน ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ต.สันมะเค็ด อ.พาน จ.เชียงราย โดยมีเนื้อหาตามประกาศว่า
ตามที่ปรากฎสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในกลุ่มพนักงานในบริษัท รียูเนียน ดีเวลล็อปเมันท์ จำกัด ต.สันมะเค็ด อ.พาน จ.เชียงราย พบจำนวนผู้ติดเชื้อในโรงงานจำนวนมาก และมีแนวโน้มพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจนำมาสู่การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น เพื่อให้การดำเนินการควบคุมพื้นที่และกำกับดูแลสถานการณ์การแพร่ระบาตของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ) ในบริษัท รียูเนียน ดีเวลล็อปเมันท์ จำกัด ต.สันมะเค็ด อ.พาน จ.เชียงราย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามมาตรา 61/1(1 ) ประกอบมาตรา 52/1(6) และมาตรา 62 มาตรา 65(3X4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 โดยความเห็นชอบของคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) อำเภอพาน จึงมีคำสั่งกำหนดพื้นที่สถานประกอบการบริษัท รียูเนียน ดีเวลล็อปเมันท์ จำกัด ต.สันมะเค็ด อ.พาน จ.เชียงราย เป็นพื้นที่ควบคุม ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล (ศปก.ต.) ต.สันมะเด็ด ดำเนินการดังนี้
1. ควบคุม ติดตาม ดูแล ผู้ที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อสั่งให้กักกันตนเองที่โรงงานหรือที่พักอาศัย (Home Quarantine) โดยมอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล (ศปก.ต.) ต.สันมะเด็ด โดยปลัดอำเภอผู้ประสานงานประจำตำบล ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังมีให้บุคคลดังกล่าวผิดเงื่อนไขการกักตัว ตามที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ กำหนด หากพบว่าผู้ถูกสั่งกักกันตนเองไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ให้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวทันที
2. จัดตั้งจุดตรวจ จุดคัดกรอง หรือจุดเฝ้าระวัง และปิดสถานที่เสี่ยงหรือห้ามเข้า-ออกในพื้นที่ ตามคำสั่งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ในพื้นที่ โดยให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ใด้รับผลกระทบจากมาตรการในการป้องกันและบูรณาการการติดตามกลุ่มเสี่ยง และแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19) ในพื้นที่ รวมถึง
การดูแลสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานตามกฎหมายและระเบียบที่เที่ยวข้อง
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 5 1 ทั้งนี้ ตั้งแต่ 12 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ซึ่งล่าสุดมีผู้กักตัวภายในโรงงานเป็นจำนวนรวม 78 ราย โดยแบ่งเป็น ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในระดับสีเขียวหรือไม่มีอาการ จำนวน 38 ราย (นำส่ง รพ. 2 ราย) และกลุ่มเสี่ยงที่ตรวจเชื้อผลเป็นลบจำนวน 40 ราย (กักตัวในชุมชน 10 ราย) โดยคำสั่งการกำหนดพื้นที่ควบคุมดังกล่าว จะมีกำหนดระยะเวลารวม 28 วัน นับตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. เป็นต้นไป และทีม ศปก.ต.สันมะเค็ด จะมีการตั้งด่านควบคุมการเข้า-ออกโรงงาน ตลอด 24 ชั่วโมง
ร่วมแสดงความคิดเห็น