เป็นข่าวจริง!!! กรณีตรวจโควิด-19 เชิงรุกกว่า 369 ชุมชนในกรุงเทพฯ พบผู้ติดเชื้อจำนวน 1.5 หมื่น ราย จาก 1.4 แสนคน

วันที่ 13 ส.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่าเป็นข่าวจริง 1 กรณีคือ

กรณีตรวจโควิด-19 เชิงรุกกว่า 369 ชุมชนในกรุงเทพฯ พบผู้ติดเชื้อจำนวน 1.5 หมื่น ราย จาก 1.4 แสนคน นั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าเป็นข่าวจริง

โดยทางกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับชมรมแพทย์ชนบท กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และเครือข่ายภาคประชาชน จัดทีมปฏิบัติการกู้ภัยโควิด-19 กทม.และปริมณฑล จำนวน 41 ทีม ลงพื้นที่ชุมชนให้บริการตรวจค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 เชิงรุก ด้วยชุดตรวจ Antigen Test kit หรือ ATK พร้อมให้บริการคัดกรองอาการผู้ป่วยเบื้องต้นเพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาที่เหมาะสม แจกยาฟ้าทะลายโจรและยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ใช้ในการดูแลรักษาตนเอง และให้บริการวัคซีนสำหรับกลุ่มเสี่ยง

สำหรับในครั้งนี้นับเป็นการร่วมลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานในกรุงเทพมหานคร เป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 4-10 ส.ค.ที่ผ่านมา (ครั้งที่ 1 ร่วมลงพื้นที่เมื่อวัน 14-16 ก.ค.64 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21-23 ก.ค.64) พื้นที่ดำเนินการสะสม 196 จุดตรวจ รวม 369 ชุมชน มีประชาชนรับบริการสะสมจำนวนทั้งสิ้น 141,516 ราย พบติดเชื้อสะสมจำนวน 15,588 ราย

และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย และวิธีการป้องกันตนเอง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ddc.moph.go.th หรือโทร. 1422

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น