ปภ.แนะรู้เทคนิคขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ลดเสี่ยงอันตราย – ป้องกันรถเสียหาย

การขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตราย และอาจจะทำให้เครื่องยนต์ชำรุด เพื่อความปลอดภัยกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะเทคนิคในการขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ดังนี้

การขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วมในระดับต่างๆ ดังนี้
ระดับท่วมถนนน้อยกว่า 20 เซนติเมตร รถทั่วไปสามารถเคลื่อนตัวได้ผ่านได้ โดยไม่ขับรถเร็ว ไม่เร่งเครื่องยนต์
และรักษาความเร็วอย่างสม่ำเสมอระดับน้ำท่วมท้องรถต่ำกว่า 40 เซนติเมตร รถทั่วไปยังผ่านได้ โดยขับช้าที่สุด และขับตามแนวการขับของรถคันหน้าให้อยู่บริเวณกึ่งกลางถนนหรือจุดที่ระดับน้ำต่ำสุด รวมถึงให้ระวังคลื่นน้ำจากรถคันที่สวนมาระดับน้ำท่วมสูงมากกว่า 40 เซนติเมตร ควรหยุดรอ เพื่อประเมินสถานการณ์ เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หากระดับน้ำลึกและไหลเชี่ยว ไม่ฝืนขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าวโดยเด็ดขาด

ทำอย่างไร…เมื่อขับผ่านเส้นทางน้ำท่วม ให้ปฏิบัติ ดังนี้
ประเมินสภาพเส้นทางจากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาทิ เสาไฟฟ้า ต้นไม้ ถังขยะ เพื่อคาดการณ์ความสูงของระดับน้ำและความแรงของกระแสน้ำใช้เกียร์ต่ำ รถธรรมดาใช้เกียร์ 1 เกียร์ 2 หากเป็นรถอัตโนมัติให้ใช้เกียร์ L ปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อป้องกันพัดลมแอร์พัดน้ำเข้าห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์ดับหรือระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ขัดข้องใช้ความเร็วต่ำ รักษาความเร็วอยู่ในระดับเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ โดยให้รอบเครื่องยนต์อยู่ในอัตรา 1,500 รอบต่อนาที ไม่เร่งเครื่องยนต์ เพราะจะทำให้เกิดความร้อนสูง ใบพัดระบายความร้อนทำงานหนัก และน้ำเข้าเครื่องยนต์ ส่งผลให้เครื่องดับได้

เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุกรณีรถคันหน้าขัดข้อง หรือหยุดกะทันหัน
ลดการใช้เบรก โดยใช้แรงเฉื่อยของเครื่องยนต์หรือใช้ในการหยุดรถหรือชะลอความเร็วรถ
ทั้งนี้ หากเครื่องยนต์ดับในขณะที่ขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ให้นำรถจอดในบริเวณที่น้ำท่วมไม่ถึง ห้ามสตาร์ทรถเพราะน้ำจะเข้าเครื่องยนต์ ส่งผลให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย

ข้อปฏิบัติหลังขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ให้ปฏิบัติ ดังนี้
ตรวจสอบระบบเบรกและคลัทช์ โดยเหยียบย้ำเบรกแบบถี่ๆอย่างน้อย 3 – 4 ครั้ง เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก หากเป็นรถยนต์เกียร์ธรรมดา ให้เหยียบคลัทช์เพื่อป้องกันคลัทช์ลื่น ขับรถต่อไปอีกประมาณ 20 นาที เพื่อไล่น้ำหรือความชื้นที่ค้างอยู่ในระบบต่างๆ ของรถและเครื่องยนต์ไม่ดับเครื่องยนต์ในทันที ให้สตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที พร้อมเปิดเครื่องปรับอากาศ จะช่วยให้เครื่องยนต์แห้งเร็วขึ้นทั้งนี้ หลังการขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ผู้ขับขี่ควรจะต้องตรวจสอบเครื่องยนต์และระบบจ่ายไฟ หากรถมีอาการผิดปกติ ควรจะนำรถไปตรวจสอบสภาพก่อนนำไปใช้งาน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น