ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม ตรวจพบข่าวปลอม กรณีผลิตภัณฑ์ มอลินด้า สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19

วันที่ 15 ส.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจพบข่าวปลอมเพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีผลิตภัณฑ์ มอลินด้า สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้ นั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข แล้ว ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

โดยทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวขออนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในชื่อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตรา มอลินด้า DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT MOLINDA BRAND เลขอย. 13-1-06159-2-0034 ซึ่งในการยื่นขออนุญาตไม่มีการยื่นข้อมูลประสิทธิผลในการเสริมภูมิคุ้มกัน การป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ และการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ตามที่กล่าวอ้าง จึงไม่สามารถประเมินประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่มีผลในการบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรค จึงขอเตือนประชาชนอย่าเชื่อการโฆษณาของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สามารถติดตามได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือโทรสายด่วน อย. 1556

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ในการยื่นขออนุญาตไม่มีการยื่นข้อมูลประสิทธิผลในการเสริมภูมิคุ้มกัน การป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ และการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโควิด-19 อีกทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่มีผลในการบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรค แต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น