ส่งทูตเกษตร-ทูตพาณิชย์จา เร่งเจรจีน แก้ปัญหาห้ามนำเข้าลำไย รอลุ้นผลสัปดาห์หน้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหากรณีจีนห้ามนำเข้าลำไย ว่า ขณะนี้มีปัญหาบางส่วนเกี่ยวกับการตรวจสุขอนามัย ซึ่งได้แจ้งให้ทูตเกษตรกับทูตพาณิชย์เจรจากับทางการจีน เพื่อผ่อนปรน และกรมวิชาการเกษตรยืนยันว่าจะเข้าไปช่วยติดตามตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานที่จีนต้องการเพื่อไม่ให้การส่งออกลำไยถูกระงับ โดยได้รับแจ้งว่าสัปดาห์หน้าทางการจีนรับที่จะเจรจาพูดคุยอาจเป็นช่วงปลายสัปดาห์ จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง


สำหรับการแก้ปัญหาราคาลำไย นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ จะลงพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเข้าไปช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ราคาตกลงมาบางส่วน โดยเฉพาะราคาลูกร่วงเกรดต่ำจะราคาตกมาก ส่วนลำไยเกรดดี เกรดส่งออก และเกรดรองลงมา ราคาแม้ไม่ดีเลิศ แต่ยังพอไปได้ เช่น ลำไยเกรดดีสุด กิโลกรัม (กก.) ละ 35-40 บาท เกรดรอง กิโลกรัมละ 30 บาท และที่ขายอยู่ในตลาดในประเทศกิโลกรัมละ 20-25 บาท ส่วนลูกร่วงเกรดดี กิโลกรัมละ 15-20 บาท แต่ถ้าเกรดคุณภาพต่ำกิโลกรัมละ 4-5 บาท

ส่วนปัญหาใหญ่ที่กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ต้องร่วมมือกับกระทรวงอื่น ในการแก้ไขปัญหากับให้เกษตรกร คือ ปัญหาแรงงานที่จะมาเก็บลำไย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนเผ่า และแต่ละชนเผ่าไม่ค่อยอยากลงมา เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้แรงงานเก็บลำไยติดปัญหา รวมทั้งเวียดนามติดปัญหาโควิด-19 ตอนนี้ผลผลิตออกเยอะและเจอโควิด-19 ทำให้การเปิดโรงอบลำไยจากไทยก็ติดขัด จึงเป็นปัญหาซ้ำซ้อน


“กระทรวงพาณิชย์ มีมาตรการในขณะนี้ โดยจะให้การช่วยเหลือผู้ที่รวบรวมลำไยเพื่อการส่งในประเทศและการส่งออกกิโลกรัมละ 3 บาท และจัดกิจกรรมรณรงค์ให้คนไทยช่วยกันบริโภคลำไย หลังจากสถานการณ์มังคุด เพราะโควิด-19 ทำให้ติดขัดไปหมด จะรณรงค์ขายราคาพิเศษในร้านธงฟ้า รถเร่ ปั๊มน้ำมัน ซึ่งมีปั๊มบางจาก ปตท. และพีที ที่จะช่วยเป็นที่ระบายและยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่จะนำมาช่วยอีก”นายจุรินทร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา จีนได้สั่งห้ามนำเข้าลำไยจากผู้ส่งออกไทยรวม 66 บริษัท เพราะตรวจเจอเพลี้ยแป้ง ทำให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกลำไย และยังส่งผลต่อการรับซื้อลำไย เพื่อนำไปส่งออก จึงมีผลกระทบต่อราคาจำหน่ายลำไยในประเทศ

ร่วมแสดงความคิดเห็น